สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ว่า นพ.เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินด้านสาธารณสุข มีมติว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดครั้งใหม่ของโรคฝีดาษลิง หรือ เอ็มพ็อกซ์ มีความรุนแรง จึงประกาศให้สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ”
นพ.เทดรอส กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง มีความน่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์ซี) ยิ่งไปกว่านั้น เชื้อโรคแพร่ระบาดข้ามพรมแดนไปยังอีกหลายประเทศ ที่ไม่เคยมีการยืนยันผู้ป่วยโรคดังกล่าวมาก่อนด้วย สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ยิ่งเป็นการบ่งชี้ว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรค
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของดับเบิลยูเอชโอ เกิดขึ้นเพียงวันเดียวห ลังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแอฟริกา (แอฟริกา ซีดีซี) ออกแถลงการณ์ ประกาศให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง “เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับภูมิภาค” เนื่องจากมีการแพร่ระบาดข้ามพรมแดน และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาชนเป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่แอฟริกา ซีดีซี ใช้อำนาจดังกล่าว นับตั้งแต่ได้รับการอนุมัติจากสมาชิก เมื่อสองปีที่แล้ว โดยสถิติของแอฟริกา ซีดีซี ยืนยันผู้ป่วยสะสมจากการติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงในภูมิภาคแล้ว 38,465 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตแล้ว 1,456 ราย นับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2565 จนถึงวันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา
ขณะที่ข้อมูลของดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า ดีอาร์ซีมีผู้ป่วยสะสมจากโรคฝีดาษลิงมากกว่า 14,000 คน และเสียชีวิตแล้ว 524 ราย นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งเป็นสถิติสะสมที่ทำลายสถิติระดับประเทศของดีอาร์คองโก ตลอดทั้งปีที่แล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.ค. 2565 ประกาศให้โรคฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ จากการพบผู้ติดเชื้อสะสมประมาณ 90,000 คนทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตแล้วราว 130 ราย จนถึงเดือน พ.ค. 2566.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES