สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ว่า กระทรวงสาธารณสุขสวีเดน รายงานการพบบุคคลเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิง หรือเอ็มพ็อกซ์ จากกลุ่มสายพันธุ์ที่ 1 หรือเคลด 1 ซึ่งมีความรุนแรงของโรคในระดับสูงสุดในบรรดาทุกสายพันธุ์ และเป็นครั้งแรกที่มีการพบผู้ป่วยจากเชื้อไวรัสฝีดาษลิงเคลด 1 นอกทวีปแอฟริกา


แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขสวีเดนระบุด้วยว่า ผู้ป่วยคนดังกล่าวมีประวัติเดินทางเยือนประเทศหนึ่งในแอฟริกา ซึ่งกำลังมีการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง จากเชื้อสายพันธุ์เคลด 1 และยืนยันว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกแห่งของสวีเดน มีมาตรการเฝ้าระวัง ตรวจคัดกรอง รักษา และป้องกันโรคฝีดาษลิง จากเชื้อไวรัสทุกสายพันธุ์


ด้านองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าสะท้อนชัดเจน เกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค และมีความเป็นไปได้สูงมากว่า ทวีปยุโรปจะพบผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิง จากกลุ่มสายพันธุ์ที่ 1 มากขึ้น

ก่อนหน้านั้นเพียงวันเดียว ดับเบิลยูเอชโอประกาศให้การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” หลังศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแอฟริกา (แอฟริกา ซีดีซี) ออกแถลงการณ์ ประกาศให้สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิง “เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับภูมิภาค” เนื่องจากมีการแพร่ระบาดข้ามพรมแดน และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประชาชนเป็นวงกว้าง


ทั้งนี้ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (ดีอาร์คองโก) เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงระลอกปัจจุบัน โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมอย่างน้อย 15,664 คน นับตั้งแต่ต้นปีนี้ จากจำนวนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว 548 ราย


ย้อนกลับไปเมื่อเดือน ก.ค. 2565 ดับเบิลยูเอชโอประกาศให้โรคฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ จากการพบผู้ติดเชื้อสะสมประมาณ 90,000 คนทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตแล้วราว 130 ราย จนถึงเดือน พ.ค. 2566.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES