เมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์สังคม สร้างการรับรู้กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการขอทาน ภายใต้แนวคิด “ให้โอกาสเปลี่ยนชีวิต…หยุดคิดก่อนให้ทาน” โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารกระทรวง พม. และกรุงเทพมหานคร และผู้แทนภาคีเครือข่าย เข้าร่วมงาน
นายอนุกูล กล่าวว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบขอทานในประเทศไทยทั้งสิ้น 7,635 ราย เป็นขอทานคนไทย 65% ขอทานต่างด้าว 35% และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้จากข้อมูล ปี 2567 พบขอทานทั้งสิ้น 506 ราย เป็นขอทานไทย 331 ราย ขอทานต่างด้าว 175 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ถึง 20.47% ในจำนวนนี้เป็นผู้ขอทานซ้ำ 78 ราย คิดเป็น 24.28% ยิ่งไปกว่านั้น พบว่ามีทั้งขอทานชั่วคราว ขอทานอาชีพ และขอทานโดยถูกบังคับ ด้วยสาเหตุที่เกิดจาก 1. ข้อจำกัดด้านร่างกาย จิตใจ เกิดจากความพิการทางร่างกายหรือความบกพร่องทางสติปัญญา 2. ขาดโอกาสในการศึกษาที่จะไปประกอบอาชีพที่มั่นคง 3. ค่านิยมของชุมชนและแรงจูงใจว่าทำรายได้ดีโดยไม่ต้องลงทุน และ 4. อิทธิพลความเชื่อว่าการให้เงินขอทานเป็นการทำบุญ

นายอนุกูล กล่าวว่า ที่ผ่านมา พม.ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ควบคุมสถานการณ์ปัญหาขอทานให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ โดยควบคุมทั้งระดับนโยบาย ผ่านกลไกการขับเคลื่อนต่าง ๆ ในระดับชาติ ระดับจังหวัด และมีชุดอนุกรรมการระดับกรุงเทพฯ ร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะ ซึ่งในวันนี้ กระทรวง พม. ได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่าย จัดโครงการรณรงค์สังคม สร้างการรับรู้กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการขอทาน ภายใต้แนวคิด “ให้โอกาสเปลี่ยนชีวิต…หยุดคิดก่อนให้ทาน” ให้เป็นพื้นที่รณรงค์สร้างการรับรู้กฎหมายการควบคุมการขอทาน สร้างความตระหนักต่อปัญหาการขอทาน จุดประกายให้ประชาชนมีทัศนคติหยุดให้ทาน เปลี่ยนเป็นให้โอกาสให้คนขอทานได้แสดงศักยภาพของตนเอง ในการประกอบอาชีพ นอกจากนี้ พม. ร่วมกับกรุงเทพฯ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงแรงงาน และหลายมูลนิธิ ร่วมเดินรณรงค์แจกสื่อประชาสัมพันธ์ 6 ภาษา บริเวณใจกลางสยาม สี่แยกปทุมวัน ถนนพระราม 1 และถนนพญาไท รวมถึงจัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่จัดระเบียบผู้ทำการขอทานพร้อมกันทั่วประเทศอีกด้วย
“คนไทยเป็นคนจิตใจดี โอบอ้อมอารี และมีจิตสาธารณะ เอื้อเฟื้อ เมตตา จึงเป็นที่มาของการส่งต่อความปรารถนาดี ผ่านรูปแบบการให้ ด้วยการให้เงินแก่ผู้ทำการขอทาน เพราะความสงสาร ในส่วนนี้ เป็นเหตุให้คนกลุ่มหนึ่งฉวยโอกาส และเลือกที่จะทำการขอทาน เกิดเป็นอาชีพ บางส่วนเกิดกระบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ และความเชื่อมโยงกับการกระทำผิดกฎหมาย ดังนั้นเพื่อยุติปัญหาขอทาน จึงขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนร่วมกันตระหนักว่าหยุดให้ทาน เท่ากับ หยุดขอทาน” นายอนุกูล กล่าว และว่า หากพบเห็นผู้ทำการขอทาน โทรฯ แจ้งศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ผ่านสายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง.