นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ยืนยันว่า ทล. ในฐานะเจ้าของสัมปทานทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทล์ลเวย์ จะไม่มีการขยายสัมปทานให้กับบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการดอนเมืองโทล์ลเวย์ เพื่อแลกกับการไม่ขึ้นค่าผ่านทางตามสัญญาสัมปทานฯ ที่จะต้องปรับขึ้น 5-10 บาท ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 67 โดยจะให้มีการขึ้นค่าผ่านทางตามสัญญาฯ ที่กำหนด อย่างไรก็ตาม หลังจากปรับขึ้นค่าผ่านทางในวันที่ 22 ธ.ค. 67 แล้ว ดอนเมืองโทล์ลเวย์จะมีการปรับขึ้นค่าผ่านทางอีกครั้งในเดือน ธ.ค. 72 ก่อนจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 77

นายสราวุธ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้รับมอบหมายจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ให้ไปพิจารณาแนวทางการเจรจากับเอกชน เพื่อให้ไม่ปรับขึ้นค่าผ่านทาง โดยเฉพาะข้อเสนอของเอกชนที่ให้ภาครัฐพิจารณาชดเชยในลักษณะคล้ายกับการเจรจากับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (BEM) ที่ขยายสัญญาสัมปทานแลกกับการปรับค่าผ่านทางลง ทาง ทล. ได้ตั้งคณะทำงานศึกษาเรื่องดังกล่าวทันที ซึ่งจากการพิจารณาอย่างรอบด้าน ได้ข้อสรุปว่า มีความไม่คุ้มค่าในการต่อสัมปทานให้กับเอกชน และได้เสนอผลไปยังกระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้ว
นายสราวุธ กล่าวอีกว่า แม้ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 67 จะต้องปรับขึ้นค่าผ่านทาง แต่เบื้องต้น ทล. ได้เจรจากับเอกชนให้จัดโปรโมชั่นส่วนลด เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับประชาชน อาจจะเป็นในรูปแบบของคูปองส่วนลดเหมือนการปรับขึ้นค่าผ่านทางเมื่อปี 62 ซึ่งทางเอกชนยินดีที่จะดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้เมื่อปี 62 เอกชนได้จัดโปรโมชั่นคูปองลดค่าโทล์ลเวย์ 5% ส่วนในปี 67 ทล. จะเจรจาเอกชนขอเพิ่มโปรโมชั่นคูปองลดค่าโทล์ลเวย์เป็น 10% หรือมากกว่า 5% ได้หรือไม่

นายสราวุธ กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางการบริหารงานดอนเมืองโทล์ลเวย์ภายหลังสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 77 จะตกเป็นของ ทล. โดยตามกฎหมายระบุว่า ก่อนจะสิ้นสุดสัญญาประมาณ 5 ปี หรือประมาณปี 72 ทล. ต้องศึกษาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร อาทิ เปิดประมูลใหม่ หรือเจรจาผู้รับสัมปทานรายเดิม หรือ ทล. จะเป็นผู้ดำเนินการเอง ทั้งนี้ในสัญญาฯ ไม่ได้มีการให้สิทธิใดๆ กับบริษัท ทางยกระดับดอนเมืองฯ เป็นอันดับแรก (First Right) ดังนั้นเมื่อสิ้นสุดสัญญาก็ถือว่าจบ และขึ้นอยู่กับผลการศึกษาว่าจะให้ทำอย่างไร หากมีการเปิดประมูลใหม่ บริษัท ทางยกระดับดอนเมืองฯ ก็สามารถเข้าร่วมประมูลได้ ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการโทล์ลเวย์ประมาณ 4-5 หมื่นคันต่อวัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก ทล. ดำเนินการเองจะมีการปรับลดค่าผ่านทางลงหรือไม่ นายสราวุธ กล่าวว่า เมื่อถึงเวลานั้นคงต้องมาพิจารณาว่าค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษาดอนเมืองโทล์ลเวย์ และรายได้เป็นอย่างไร ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลในขณะนั้น หากต้องการให้ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ประชาชน ก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะไม่เก็บค่าผ่านทางเลยก็ได้ หรืออาจจะเก็บค่าผ่านทางเป็น 20 บาทตลอดสายก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ตามปกติเรื่องการซ่อมบำรุงรักษาทางต่างๆ ทล. ได้รับการจัดสรรงบประมาณในการบำรุงรักษาทางหลวงทุกปีอยู่แล้ว ก็อาจนำเงินดังกล่าวมาใช้ซ่อมบำรุงรักษาโทล์ลเวย์ได้.