เมื่อวันที่ 15 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุเตย อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 ต.ค. ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต บริเวณหน้าห้องเช่า สีชมพู ไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ติดริมเส้นทางหลวงหมายเลข 21 ถนนสายสระบุรี-หล่มสัก หมู่ 2 ต.พุขาม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด อยู่ท้ายรถกระบะ สวมเสื้อสีแดง กางเกงขายาวสีดำ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณศีรษะ จำนวน 3 นัด และพบหัวลูกกระสุนปืนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบชื่อผู้ตาย คือ นายกิตติภัฎ พรมด้วง อายุ 45 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เกาะเต่า อ.ป่าพยอม จ.พัทลุง โดยมีอาชีพเป็นผู้รับเหมา และหลังจากแพทย์เวร ได้ทำการชันสูตรศพในที่เกิดเหตุเสร็จ ก็ได้ส่งศพผู้ตายไปทำการชันสูตรศพ ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ อีกครั้ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายอนุชา น่วมเจิม อายุ 51 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.พุขาม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างหลบหนี เบื้องต้นทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดจากความหึงหวง ที่ทางด้านนายอนุชา ผู้ก่อเหตุ ไปหลงรัก น.ส.แก้ว อายุ 41 ปี พนักงานเสิร์ฟร้านอาหารแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุ โดยในช่วงเย็นของวันที่ 14 ต.ค. 2564 ผู้ตาย และเพื่อน รวมทั้ง น.ส.แก้ว กำลังนั่งดื่มสุรา เพื่อเลี้ยงส่งผู้ตาย ก่อนเดินทางกลับบ้านที่ จ.พัทลุง หลังจากมาทำงานรับเหมาเสร็จ ที่บริเวณหน้าห้องพัก
ขณะที่ นายอนุชา ผู้ก่อเหตุ ก็ได้ขี่รถซาเล้งมาหา น.ส.แก้ว และด้วยความหึงหวง ที่เห็นว่า น.ส.แก้ว นั่งดื่มสุราอยู่กับผู้ตาย จึงใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาจ่อยิงไปที่ น.ส.แก้ว แต่ผู้ตายเหลือบไปเห็น จึงได้ผลักฝ่ายหญิงออก รับกระสุนแทน 3 นัด จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ หลังจากก่อเหตุ นายอนุชา ก็ได้ขี่รถซาเล้ง หลบหนีไป ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
พ.ต.อ.ธีรพงษ์ ผลนาค ผกก.สภ.พุเตย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ คือ น.ส.แก้ว และเพื่อนที่นั่งดื่มอยู่กับผู้ตาย ให้การยืนยันว่า นายอนุชา เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจนเสียชีวิตจริง ตอนนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เตรียมเสนอต่อศาลเพื่อออกหมายจับ ส่วนผู้ก่อเหตุตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ประสานไปยังญาติผู้ก่อเหตุว่า ถ้าพบตัวหรือผู้ก่อเหตุติดต่อมา ให้เกลี้ยกล่อมพามอบตัว ขณะที่ทางด้า น.ส.แก้ว หญิงสาวผู้ที่ถูกจ่อยิง ยังไม่พร้อมให้ข้อมูลใดๆ เพราะยังอยู่ในอาการกลัวว่า นายอนุชา จะกลับมาทำร้ายตน