เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา นายศิริชัย พัฒนแก้ว กับพวกอีก 3 คน ประกอบด้วย นายสรวิชญ์ สมมา อายุ 23 ปี นายศักทอง ทองเสงี่ยม อายุ 22 ปี และ นายพาลานา สนมีทองนะ อายุ 23 ปี เดินทางขอเข้ามอบกับ ร.ต.อ.ชัชวาล กุลกำลัง รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี คลิปที่ปรากฏในโลกโซเชียล กรณีกลุ่มคนงานโรงงานแห่งหนึ่งในจ.สมุทรปราการ ประมาณ 10 คน ออกมาดักซุ่มรอทำร้ายร่างกายนายเทวัญ พุ่มผกา อายุ 28 ปี หนุ่มโรงงานเดียวกัน โดยในคลิปเป็นภาพขณะ นายเทวัญ ขี่จยย.ผ่านมาก่อนถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้เท้าถีบรถจยย.จนล้มไถล ก่อนใช้มีด ไม้ เข็มขัด ไปรุมทำร้ายร่างกายนายเทวัญ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมีกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ ต่อมานายเทวัญ นำร่างบอบช้ำเข้าแจ้งความ ให้การว่าถ้าไม่แกล้งตายคงไม่รอด

นายศิริชัย ให้การเบื้องต้นว่า ไม่เคยรู้จักนายเทวัญ เป็นการส่วนตัว แต่รู้ว่านายเทวัญ เป็นขาใหญ่ในที่ทำงาน ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ขณะตนกำลังไปตอกบัตรเข้าทำงานกะดึก ส่วนนายเทวัญ กำลังออกกะ อยู่ๆ นายเทวัญ หันมาถามตนว่ามองหน้าทำไม มีอะไรหรือเปล่า จึงตอบว่าไม่มีอะไร ขณะนั้นเพื่อนเห็นเหตุการณ์จึงเข้ามาห้าม และบอกให้ตนไปทำงาน คล้อยหลังระหว่างเดินจะเข้าทำงาน นายเทวัญ คงคาใจยังตะโกนมาบอกว่า “แถวนี้ถิ่นกู บ้านกูอยู่สายลวด มึงจะทำไม” ก่อนที่จะมีปากเสียงกันเล็กน้อย และต่างคนต่างแยกไป ต่อมาวันเกิดเหตุ 14 ต.ค. เป็นวันที่ตนลางานเตรียมไปเที่ยวชะอำ ก่อนเกิดเหตุขณะเดินออกจากบ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจุดเกิดเหตุมากนักเพื่อไปซื้อของ และเป็นเวลาเลิกงานกะเช้าพอดี

นายศิริชัย ให้การอีกว่า ระหว่างทางเห็นนายเทวัญ และเพื่อนตนในกลุ่มขี่รถจยย.ไล่ตามกันมาจากโรงงาน จนถึงช่วงสะพานข้ามคลอง เห็นนายเทวัญ ชักมีดออกมาจะแทงเพื่อน แต่จังหวะนั้นเพื่อนที่ซ้อนท้ายรถจยย.เห็นท่าไม่ดีจึงกระโดดลงจากรถ จังหวะนั้นนายเทวัญ คุมรถไม่อยู่จึงเสียหลักล้มไปเอง โดยเพื่อนตนไม่ได้ถีบรถให้ล้มแต่อย่างใด กระทั่งเกิดเหตุชุลมุนตามคลิปที่ปรากฏ ต่อมาตนจึงเดินทางไปเที่ยวทะเลที่ชะอำ และเห็นข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ จึงชวนเพื่อนๆ มามอบตัวเนื่องจากวันเกิดเหตุตนและเพื่อนทั้ง 3 คน ไม่ใช่คนเข้าไปรุมแต่จะเข้าไปห้าม และจำไม่ได้ว่ามีเพื่อนคนไหนบ้างที่เป็นคนใช้อาวุธทำร้ายนายเทวัญ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้นัดเพื่อนมาดักทำร้ายแต่อย่างใด แต่เป็นการมาพบโดยบังเอิญ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อในคำให้การเนื่องจากพฤติกรรมในกล้องวงจรปิดขัดแย้งกันคำให้การ จึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนทำให้ได้รับอันตรายและบาดเจ็บสาหัส และข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ ก่อนนำตัวไปบันทึกทำประวัติ และปล่อยตัวกลับไป เนื่องจากทั้ง 4 คน แสดงความบริสุทธิ์ใจเข้ามามอบเอง โดยในวันจันทร์ที่ 18 ต.ค. จะนัดผู้ต้องหาทั้ง 4 มาพบเพื่อนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุที่ยังเหลืออีกไม่ต่ำกว่า 5 คน อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป