เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราชได้สวมใส่ชุดพีพีอีเข้านางชิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 80 ปี ชาว ต.ทุ่งใหญ่ ที่ป่วยเป็นมะเร็งและติดเชื้อโควิด-19 นอนรักษาตัวที่ รพ.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ต่อมาในตอนบ่ายวันที่ 16 ต.ค. นางชินได้เสียชีวิตลง ขณะเข้ารักษาตัวโรคมะเร็งและติดเชื้อโควิด-19 ได้เพียงวันเดียว ทำให้ลูกๆและเครือญาติพากันโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก

หลังนางชินได้เสียชีวิตลงทาง รพ.ทุ่งใหญ่ ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ให้เข้าดำเนินการบรรจุศพใส่โลงเพื่อนำร่างไปฌาปนกิจในทันที ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังจะเคลื่อนย้ายร่างของนางชินจากห้องควบคุมโรคลงมาใส่ในรถกู้ภัยไปทำพิธีฌาปนกิจศพที่วัดท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ ทางลูกๆและญาติสนิทได้บอกกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย ขอก้มกราบลาแม่เป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่ร่างบรรจุอยู่ในโลงศพวางอยู่บนรถเข็นแบบเตียงนอนท้ายรถกู้ภัยด้วยความอาลัย เป็นอีกภาพหนึ่งที่สะเทือนใจแก่ญาติๆและเจ้าหน้าที่กู้ภัย

หลังลูกๆและเครือญาติได้กราบลาร่างนางชินที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งและติดเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่ก็ภัยก็นำร่างที่บรรจุอยู่ในโลงใส่รถตู้กู้ภัย เคลื่อนย้ายออกจากรพ.ทุ่งใหญ่ ไปยังวัดท่ายาง ให้พระปลัดราชันย์ปสันนจิตโต ดร.เจ้าอาวาสวัดท่ายาง พร้อมพระลูกวัดสวดทำพิธีก่อนจะเผา โดยมีลูกๆและเครือญาติร่วมกรวดน้ำส่งดวงวิญญาณมองดูอยู่ห่างๆจากเมรุด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

ด้าน นางอุไรวรรณ อายุ 46 ปี ลูกสาวนางชินผู้เสียชีวิต เปิดเผยความรู้สึกหลังสูญเสียผู้เป็นแม่วัยชราไปด้วยโรคมะเร็งและติดเชื้อโควิด-19 ด้วยใจความสั้นๆว่า “รู้สึกเสียใจคือพูดอะไรไม่ออกพูด ง่ายๆบอกได้อย่างเดียวว่า เสียใจมาก รับไม่ค่อยได้กับเรื่องนี้ คือเรื่องที่มีคนติดเชื้อโควิด-19 ตาย แต่คนในบ้านก็ไม่สามารถเห็นหน้าได้”