ตำรวจลาสเวกัสจับกุมแพทริเซีย เซียร์รา วัย 47 ปี เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ของวันที่ 29 สิงหาคม และตั้งข้อหาลักทรัพย์ที่มีมูลค่ากว่า 1,200 เหรียญสหรัฐ แต่ไม่ถึง 5,000 เหรียญสหรัฐ รวมถึงข้อหาบุกรุกสถานประกอบธุรกิจและเคลื่อนย้ายหรือทำลายศพมนุษย์
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากฌาปนสถานแอฟฟอร์เดบิล ครีเมชัน แอนด์ บิวเรียล เซอร์วิส ที่ตั้งอยู่บนถนนชาร์ลสตันบูเลอวาร์ด เมืองลาสเวกัส หลังจากได้รับรายงานว่าพบศพนอนคว่ำอยู่หน้าอาคาร โดยมีโลงศพตั้งทิ้งอยู่ใกล้ๆ
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุก็พบศพอยู่นอกอาคาร ส่วนประตูอาคารเปิดทิ้งไว้ มีกระจกด้านหนึ่งแตก
หลังจากตรวจสอบสถานที่และภาพจากกล้องวงจรปิดในอาคารก็พบตัวผู้ต้องสงสัย เป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 30-50 ปี ผมสั้น สวมเสื้อกล้ามสีดำ เลกกิ้งสีดำ และรองเท้าผ้าใบสีดำ เข้ามาในอาคารด้วยการทุบกระจกด้านหน้าแล้วปลดล็อคประตู จากนั้นเธอจึงเดินเข้าไปในห้องไว้อาลัยผู้ตายและขนย้ายโลงศพที่มีศพอยู่ในนั้นออกมาทางประตูหน้า
รายงานของตำรวจระบุว่า หญิงคนดังกล่าวเดินเข้าออกอาคารอยู่หลายครั้งก่อนจะออกจากสถานที่ไป
หลังจากนั้น 2 วันก็มีผู้โทรฯแจ้งตำรวจว่าเห็นบุคคลที่มีลักษณะตรงกับลักษณะของผู้ต้องสงสัยที่ขโมยโลงศพ อยู่ที่ร้านสะดวกซื้อในละแวกใกล้เคียง
หลังจากจับกุมผู้ต้องสงสัยและชี้ตัวได้ว่าเธอคือผู้หญิงที่อยู่ในคลิป ตำรวจก็นำตัวเซียร์ราไปยังศูนย์บัญชาการเพื่อรับฟังการอ่านสิทธิผู้ต้องหาตามระเบียบการจับกุม
เซียร์ราอ้างว่าเธอไม่รู้เรื่องการขโมยโลงศพเพราะมีปัญหาการเสพยาและมีอาการมึนเมาจนไม่ได้สติในวันเกิดเหตุ เธอยังอ้างจำไม่ได้เลยว่าตัวเองบุกรุกเข้าไปในอาคารของฌาปนสถานได้อย่างไร
ระหว่างการสอบสวน เซียร์ราได้กล่าวขอโทษต่อเจ้าหน้าที่และอ้างว่าเธอไม่ได้มีเจตนาร้าย หลังจากที่ตำรวจนำภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้เธอดู เธอก็แสดงท่าทีจำได้และยอมรับว่าเธอคือคนที่อยู่ในคลิป แต่จำไม่ได้ว่าทำไมถึงบุกรุกเข้าไปในอาคาร พร้อมกับอ้างว่าในคืนนั้นเธอเมาจนไม่รู้เรื่องหลังจากดื่มเบียร์ไป 6 กระป๋อง
ข้อมูลจากบันทึกศาลระบุว่า เซียร์ราได้รับอนุญาตให้ประกันตัวได้โดยมีวงเงินประกัน 11,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 368,900 บาท) สำหรับข้อหาลักทรัพย์ โดยกำหนดวันเปิดพิจารณาคดีครั้งแรกในวันที่ 18 กันยายนที่จะถึงนี้
ที่มา : foxnews.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, Las Vegas Metropolitan Police Department