เมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ห้องประชุมกรุงธน 3 สำนักเทศกิจ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขต ครั้งที่ 3/2564 เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่เทศกิจ โดยมี นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัด กทม. นายสมศักดิ์ ชาติสุขศิริเดช ผู้ช่วยเลขาฯ ผู้ว่าฯ กทม. นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผอ.สำนักเทศกิจ ผู้บริหาร กทม. ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 50 สำนักงานเขต ร่วมประชุม

ที่ประชุมรายงานการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่เทศกิจในการดำเนินการเกี่ยวกับซากรถยนต์ จากการสำรวจซากยานยนต์ที่ถูกจอดทิ้งไว้ในที่สาธารณะมีจำนวน 1,051 คัน เคลื่อนย้ายแล้ว 1,026 คัน เคลื่อนย้ายโดยเจ้าตัว 904 คัน สำนักงานเขตเคลื่อนย้าย 122 คัน คงเหลือซากยานยนต์ที่รอเคลื่อนย้าย 25 คัน

สำหรับการดำเนินการโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.61-9 ต.ค.64 สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 39,858 ราย ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือน 3,830 ราย ดำเนินคดี 37,225 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 1,803 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 43,620,400 บาท โดยระหว่างวันที่ 1-9 ต.ค.64 เทศกิจสำนักงานเขตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ 55 ราย แยกเป็นประชาชนทั่วไป 48 ราย วินจักรยานยนต์ 7 ราย ปรับเป็นเงิน 49,000 บาท

ส่วนการดำเนินการกรณีป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.61-9 ต.ค.64 เทศกิจสำนักงานเขต จัดเก็บได้ 218,083 ป้าย แจ้งความดำเนินคดี 51 ราย จับ-ปรับ 5,383 คดี ปรับเป็นเงิน 15,091,700 บาท โดยระหว่างวันที่ 1-9 ต.ค.64 เทศกิจสำนักงานเขตจัดเก็บได้ 1,214 ป้าย จับปรับ 19 คดี ปรับเป็นเงิน 30,500 บาท

ด้านโครงการกลับบ้านปลอดภัยไปกับเทศกิจ บริการอำนวยความสะดวกประชาชนที่เดินทางในเวลากลางคืน ในเส้นทางที่กำหนด ตั้งแต่เวลา 21.00-02.00 น. ในจุดหรือเส้นทางให้บริการสำนักงานเขตละ 2 เส้นทาง รวม 100 เส้นทางใน 50 สำนักงานเขต ในปีงบประมาณ 2564 ให้บริการประชาชน จำนวน 3,171 ราย

ทั้งนี้ รองผู้ว่าฯ กทม. ได้กำชับเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้มงวดกวดขันนโยบายการจัดระเบียบเมืองอย่างต่อเนื่อง อาทิ จอดรถหรือขับขี่บนทางเท้า ป้ายโฆษณาที่ติดตั้งในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดระเบียบผู้ค้า รวมถึงความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยด้านอื่นๆ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพมหานครต่อไป.