สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ว่าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลญี่ปุ่น จัดการหยั่งเสียงภายในพรรค เพื่อเฟ้นหาผู้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ แทนนายกรัฐมนตรีฟุมิโอ คิชิดะ ซึ่งประกาศลาออกจากตำแหน่ง จึงหมายความว่า ผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ จะขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำรัฐบาลคนใหม่ของญี่ปุ่นด้วย
ทั้งนี้ จากผลการลงคะแนนรอบแรก ซึ่งมีผู้เสนอตัวมากถึง 9 คน ปรากฏว่า นายชิเงรุ อิชิบะ อดีต รมว.กลาโหม และอดีตเลขาธิการพรรคแอลดีพี ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนเป็นอันดับหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ของเสียงข้างมาก จากบัตรลงคะแนนทั้งหมด จึงต้องมีการหยั่งเสียงอีกครั้ง ที่เป็นการตัดสินชี้ขาด ระหว่างอิชิบะ วัย 67 ปี กับนางซานาเอะ ทาคาอิจิ อดีต รมว.เศรษฐกิจ วัย 63 ปี ซึ่งหากเธอเป็นฝ่ายชนะ จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นสตรีคนแรกของญี่ปุ่น ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรครัฐบาล และนายกรัฐมนตรี
自民党総裁選挙は、1回目の投票でいずれの候補者も過半数に届かず、決選投票の結果、石破元幹事長が高市経済安全保障担当大臣を抑えて新しい総裁に選出されました。https://t.co/50oql7fuvZ#nhk_video pic.twitter.com/ZeprcU15Nw
— NHKニュース (@nhk_news) September 27, 2024
ขณะที่ผลการลงคะแนนรอบตัดสิน ปรากฏว่า อิชิบะเอาชนะทาคาอิจิ ด้วยคะแนนเสียงสนับสนุน 219 ค่อ 154 เสียง รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพีคนใหม่ และเตรียมขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 65 ของญี่ปุ่น ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดลงมติเลือกอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 ต.ค. นี้
สำหรับการลงแข่งขันของตำแหน่งหัวหน้าพรรคแอลดีพีของอิชิบะครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 5 ซึ่งก่อนหน้านั้นเจ้าตัวประกาศว่า จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ส่วนงานหนักที่รอผู้นำญี่ปุ่นคนใหม่ มีทั้งการแก้ไขปัญหาการทุจริตภายในพรรค หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระทบความเชื่อมั่นของประชาชนต่อพรรคแอลดีพี ซึ่งครองการเป็นรัฐบาลแทบทุกครั้ง ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ร่วมด้วยการแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจ และการบริหารจัดการความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาค.
เครดิตภาพ : AFP