ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส.ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย มี 4 ประเด็น คือ สำคัญ 1. งานสร้างเสริมสุขภาพแนวใหม่ สสส. เติมเต็มช่องว่างให้กับระบบสุขภาพไทย ขับเคลื่อนรวมพลังสร้างสรรค์สุขภาวะกับทุกภาคส่วนของสังคม มีความยืดหยุ่นคล่องตัว ขับเคลื่อนสุขภาวะได้ทุกวิกฤต จนพิสูจน์ความสำเร็จสู่การเป็นองค์กรสร้างเสริมสุขภาพที่นานาชาติให้การยอมรับ ล่าสุดได้รับรางวัลเนลสัน แมนเดลา ด้านการสร้างเสริมสุขภาพ ประจำปี 2564 (WHO Nelson Mandela Award for Health Promotion 2021) จากองค์การอนามัยโลก

2. การเปลี่ยนแปลงต่อประเด็นสุขภาพ สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดบุหรี่ การเปลี่ยนค่านิยมสร้างประเพณีวัฒนธรรมไร้แอลกอฮอล์ สร้างความปลอดภัยบนท้องถนน ทำให้อุบัติเหตุลดลง พัฒนาระบบอาหารเพื่อสุขภาวะ เพื่อสุขภาพดีที่ยั่งยืน จุดกระแสกิจกรรมทางกาย เพื่อวิถีชีวิตสุขภาวะคนไทย เปิดใจ รับรู้ ป้องกัน แก้ไข ปัญหาสุขภาวะทางเพศ

3. การเปลี่ยนแปลงระดับพื้นที่ และกลุ่มเป้าหมาย ซึ่ง สสส. ทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่นเข้มแข็งทั่วประเทศที่จัดการปัญหาได้ด้วยตนเอง การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียม คนกลุ่มเปราะบาง คนพิการ ผู้สูงอายุ การดูแลสุขภาวะคนทำงาน และการลงทุนในเด็กซึ่งเป็นอนาคตของชาติที่ถือว่าได้ผลคุ้มค่า ผ่านโครงการต่างๆ และ 4.การเปลี่ยนแปลงต่อระบบที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เช่น สร้างความเข้มแข็งในการคุ้มครองผู้บริโภค สร้างสุขภาวะระดับพื้นที่ ด้วยระบบสุขภาพอำเภอ การสร้างสำนึกที่เท่าทันโลกด้วยระบบนิเวศสื่อสุขภาวะ ผลักดันให้ประชาชนไทยก้าวสู่การเป็น ‘พลเมืองดิจิทัล’ ที่มีความทันทันสื่อ และมีความรับผิดชอบต่อสังคมในเวลาเดียวกัน

“จากการถอดบทเรียน 20 ปี สสส. หัวใจความสำเร็จ คือ การรวมพลังภาคีสุขภาพ ทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม สสส. ทำหน้าที่สานพลัง ร่วมสร้างนวัตกรรม ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน โดยใช้ยุทธศาสตร์ “ไตรพลัง” ขับเคลื่อนสังคม ต่อยอดแก้โจทย์ใหม่ๆ ยากๆ ในสังคมด้วยเครื่องมือใหม่บวกกับทุนความรู้ที่สั่งสม โดยสสส. เป็นองค์กรนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่มีภาคีเครือข่าย ทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการ เป็นแนวร่วมในการร่วมคิด ร่วมทำ กับภาคีสุขภาพ กว่า 20,000 ภาคี ในการเป็นพลังสำคัญขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะ

ในทศวรรษหน้า สสส. มีทิศทางการดำเนินงานใน 7 ประเด็น คือ 1.บุหรี่ 2.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3.อุบัติเหตุ 4.กิจกรรมทางกาย 5.อาหาร ทั้งความปลอดภัยของอาหาร และพฤติกรรมการบริโภคอาหารลดหวาน มัน เค็ม 6.สุขภาพจิต และ 7.มลพิษทางอากาศ” ดร.สุปรีดา กล่าว

นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. กล่าวว่า เนื่องในวาระครบรอบ 20 ปี สสส. จะจัดกิจกรรม “20 ปี ภาคีสร้างสุข นวัตกรรมความสุขที่ยั่งยืน”ระหว่างวันที่ 8-10 พ.ย. นี้ ในรูปแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ ทั้งการเสวนาถอดบทเรียนการทำงานของ สสส. และภาคีเครือข่าย งานสร้างเสริมสุขภาพยุคใหม่ อนาคตการสร้างเสริมสุขภาพของไทย แสดงผลงานนวัตกรรมสุขภาพ 14 ผลงาน ผลงานที่จดสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ 25 ชิ้นงาน และนิทรรศการ 20 ปี ภาคีสร้างสุข ในรูปแบบ แบบ INTERACTIVE ผ่านช่องทางออนไลน์ ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมสร้างสุขภาวะที่ดีด้วยกัน และติดตามรับชมผ่านทางเว็บไซต์ https://20th.thaihealth.or.th และ Facebook LIVE : ThaiHealth