เมื่อวันที่ 15 ต.ค. ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อไปถึงพบพนักงานห้างกำลังควบคุมตัว นางนุสรา (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ชาวจ.อุดรธานี พร้อมของกลางจำนวนมากตั้งแต่ เนื้อสัตว์ ปลั๊กไฟ และเครื่องสำอาง จากการสอบสวน นางนุสรา ให้การรับสารภาพว่าลักขโมยสินค้าจากในห้างมาจริง โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าไปลักทรัพย์สินค้า-อาหาร จากห้างสรรพสินค้าชื่อดังมาแล้ว 2 แห่งในจังหวัดเดียวกัน โดยใช้จยย. ยามาฮ่า ฟีโน่ สีน้ำตาล 2กบ 6855 อุดรธานี ซึ่งเป็นรถของน้องสาวมาใช้ก่อเหตุ ส่วนสาเหตุที่เข้าไปขโมยเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ขอโทษผู้เสียหาย จะขอชดใช้ค่าสินค้าทั้งหมด
ขณะเดียวกัน นิติกรห้างสรรพสินค้าทั้ง 3 แห่ง ได้เดินทางมา สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นางนุสรา โดยนำรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปมาให้ไว้เป็นหลักฐาน โดยห้างแห่งแรกถูกขโมยรวม 9 รายการมูลค่า 1,325 บาท แห่งที่ 2 รวม 20 รายการ มูลค่า 3,000 บาท และแห่งที่ 3 รวม 18 รายการมูลค่า 3,600 บาท สรุปทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปรวมมูลค่ากว่า 7,925 บาท
ต่อมา ได้มี นายหนึ่ง (สงวนชื่อ-สกุลจริง) อายุ 48 ปี อ้างว่าเป็นสามีของ นางนุสรา เข้ามาขอเจรจากับทางนิติกรห้างสรรพสินค้าทั้ง 3 แห่ง โดยระบุว่า ภรรยาของตนป่วยเป็นโรคพุ่มพวง (SLE) ต้องกินยากดภูมิเป็นประจำ และกินยาครั้งละมากๆ ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมภรรยาจะต้องก่อเหตุ อาจจะเบลอเพราะกินยามาก ตนอยากจะขอโอกาสเจ้าทุกข์ เพราะถ้าภรรยาติดคุก อาการป่วยจะหนักมากกว่านี้ และอาจะเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตามทางนิติกรยืนยันว่าต้องดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ทางตำรวจแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์” ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย.