ช่วงนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “บอสพอล” หรือ วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม ที่มีผู้เสียหายจากการทำธุรกิจกับ ดิไอคอนกรุ๊ป รูปแบบธุรกิจขายตรง แล้วได้รับความเสียหาย “ขายสินค้าไม่ได้” และการดำเนินธุรกิจอาจเข้าข่ายการหลอกลงทุนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ อีกทั้ง บรรดาลูกข่ายยังได้ออกมาแจ้งความเป็นผู้เสียหายแล้ว และยังมีเหล่าดาราดังที่ชาวเน็ตเห็นภาพที่ถ่ายคู่กับเหล่าบอส ต่างก็ออกมาชี้แจง บ้างก็ออกมาเผยว่าตัวเองเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย
สำหรับ “พอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล” ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ อาณาจักรธุรกิจออนไลน์ ดิไอคอนกรุ๊ป (The iCon Group) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงาม ที่ใช้โมเดล “ซื้อมา-ขายไป” สร้างรายได้มหาศาล เพียง 3 ปีกว่าๆ ยอดขายทะลุ 5,000 ล้านบาทไปแล้วในปี 2564 แถมมีเหล่าดาราระดับแนวหน้าของไทย ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่ร่วมงานเพียบ
นอกจากนี้ “พอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล” เคยเปิดใจในรายการตีสิบ เล่าเส้นทางชีวิตว่า “ทำงานตั้งแต่เด็ก พ่อทิ้งไปตั้งแต่ 3 ขวบ อีกทั้งในวัยเด็ก ยังเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหาร พร้อมทำงานพิเศษอื่นๆ” จนกระทั่งชีวิตประสบความสำเร็จ และเป็นเจ้าของวลีเด็ดอย่าง “ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย”
อย่างไรก็ตาม บอสพอลเคยออกซิงเกิล 2 ซิงเกิล ซึ่งยอดวิวทั้ง 2 เพลงทะลุล้านวิวเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับมีนักแสดงชื่อดังเข้ามาแสดง MV อีกด้วย โดย 2 ซิงเกิล ที่ “บอสพอล” ออกมานั้น เพลงแรก คือ “จะไปให้ถึงฝัน – PaulTheiCon” ที่มียอดวิวมากถึง 1.2 ล้านครั้ง โดยมี โดม “ปกรณ์ ลัม” เป็นนักแสดงชื่อดังเป็นแขกรับเชิญ และเพลงที่ 2 คือ ไม่ปล่อยมือ – PaulTheiCon โดยมียอดวิวมากกว่า 1.2 ล้านครั้ง ซึ่งมีนักแสดงชื่อดังอย่าง “อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ” ถึงแม้ พอล-วรัตน์พล วรัทย์วรกุล จะออกมาชี้แจงแล้ว แต่สังคมก็ยังมองว่าบอสพอลนั้นยังออกมาชี้แจงไม่เคลียร์
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 16 ต.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เลขาธิการ ปปง. อาศัยอำนาจตามมาตรา 48 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ออกคำสั่งที่ ย.214/2567 ให้อายัดทรัพย์สินของบริษัทท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด, นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล, นายณิชพน ทองมี, น.ส.ฐิตตญา หงษ์อุปถุมภ์ไชย และนายกันต์ กันตถาวร ซึ่งเป็นทรัพย์สินประเภทเงินในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ เงินในบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน เงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ และเงินในบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและสินทรัพย์ดิจิทัล จำนวน 11 รายการ รวมราคาประเมินทั้งสิ้นประมาณ 125,548,076.99 บาท พร้อมดอกผลไว้ชั่วคราว มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน อีกด้วย..
ขอบคุณข้อมูล : paultheicon และรายการตีสิบ