จากกรณี ”ลีน่า จังจรรยา“ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอลงใน Tiktok ต่อว่าร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี โดยระบุว่า “ดิฉันมาแ-กก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ ดิฉันไม่ได้เติมพริกในก๋วยเตี๋ยวเลย 3 ชาม ซื้อลูกชิ้นอีก 300 บาท แต่คุณคิดค่าพริกฉัน 100 บาท เกินไปไหม เดี๋ยวดิฉันจะร้องกระทรวงพาณิชย์ ว่าคุณเอาเปรียบผู้บริโภค ว่า 3 ชามนี้ ฉันใส่พริกค่อยว่าไปอย่าง แต่นี่ฉันซื้อลูกชิ้นอีก 300 บาท เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคเกินไป“
จากนั้นลีน่าจังก็ได้นำถุงพริกน้ำจิ้มมาคืนทางร้าน ซึ่งทางร้านก็บอกว่าถึงนำมาคืนก็ต้องทิ้งอยู่ดี และก็ได้ให้เงินคืนลีน่าจังไป 100 บาท ซึ่งคลิปวิดีโอดังกล่าวกลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการให้กำลังใจเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังร้าน “อาเหลียง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น” ย่านประชานิเวศน์ 3 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับร้านก๋วยเตี๋ยวดังกล่าว ตอนที่ทีมข่าวลงพื้นที่ไป ปรากฏว่ามีลูกค้ากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เต็มร้าน เท่าที่สังเกตดู เรียกได้ว่าขายดีก็ว่าได้
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.นันธนา จึงตระกูล เจ้าของร้าน และเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันที่เกิดเหตุ โดยเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า คุณลีน่าจังเข้ามากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา บอกกับทางร้านว่าจะมารีวิวให้ แต่ไม่ได้มีการติดต่อมาล่วงหน้า ทางร้านก็ให้บริการเหมือนลูกค้าปกติทั่วไป โดยมีการสั่งก๋วยเตี๋ยว 3 ชาม และมีการสั่งลูกชิ้น 50 ลูก จริงตามที่เธอได้พูดในคลิป
จากนั้นเธอก็ได้สั่งให้ลูกน้องของร้านนำน้ำตาล พริกป่น น้ำส้มสายชูไปเติมให้เต็มแก้ว แล้วก็ขอชามก๋วยเตี๋ยวเปล่าเพิ่ม 1 ใบ ซึ่งทางร้านก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งหันไปเห็นว่า เธอได้เทน้ำตาลลงในถ้วยเปล่า โดยเทไปเกือบหมดแก้ว รวมถึงพริกป่นและน้ำส้มสายชูลงไปเกือบหมดแก้วด้วย แต่ก็กินไม่หมด และได้ให้ลูกน้องของทางร้านห่อกลับไป ทางร้านจึงได้คิดเงินเพิ่มจำนวน 100 บาท ซึ่งเป็นค่าเครื่องปรุงทั้งพวงที่หมดไป
จากนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในโซเชียล และ Tiktok ของคุณลีน่าจัง ที่ได้ถ่ายคลิปวิดีโอ และโพสต์ลงใน Tiktok ต่อว่าทางร้าน และบอกว่าจะไปแจ้งกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งสุดท้ายแล้วคุณลีน่าจังก็ได้นำเครื่องปรุงมาคืน ซึ่งทางร้านก็ไม่สามารถนำมาใช้ได้แล้ว ก็ต้องทิ้งไป และทางร้านก็ได้คืนเงิน 100 บาท ให้กับคุณลีน่าจัง เพราะไม่อยากมีปัญหา หรือให้เป็นเรื่องใหญ่บานปลายต่อไป
น.ส.นันธนา ยังขอชี้แจงอีกว่า จริงๆ แล้วตนไม่ได้หวงเครื่องปรุงแต่อย่างใด แต่คิดว่าสิ่งที่คุณลีน่าจังทำนั้นมันเกินไป ซึ่งปกติแล้วลูกค้าที่ร้านก็ขอถ้วยน้ำจิ้ม ซึ่งเป็นถ้วยเล็กๆ หรือบางคนขอเป็นถ้วยใหญ่ขึ้นมาหน่อย เพื่อนำไปปรุงน้ำจิ้มเอง อย่างมากก็ พริก น้ำตาล 3-4 ช้อน ทางร้านไม่เคยคิดเงินอยู่แล้ว เพราะไม่ได้ขอถ้วยก๋วยเตี๋ยวเพื่อไปใส่เครื่องปรุงทั้งพวงแบบนี้ แต่กรณีนี้ก็จำเป็นที่ต้องคิด เพราะราคาของเครื่องปรุงก็ค่อนข้างแพง อย่างเช่น พริก ช่วงนี้ราคาในท้องตลาดค่อนข้างแพงมาก
โดยวันนี้ น.ส.นันธนา ก็ได้นำเครื่องปรุงมาเทให้ทีมข่าวดูว่า ขนาดที่คุณลีน่าจังเขาเทเครื่องปรุงลงชามก๋วยเตี๋ยว เทียบกับถ้วยน้ำจิ้มของทางร้าน ซึ่งมันต่างกันมาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับคุณลีน่าจัง เพียงแต่อยากชี้แจงให้ประชาชนและลูกค้าเข้าใจในมุมของทางร้านเท่านั้น ซึ่งหลังจากวันที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าก็มีลูกค้าเข้ามากินที่ร้านจำนวนมากด้วย บอกว่าเห็นคลิปของคุณลีน่าจัง แล้วเพิ่งนึกได้ เพราะหลายคนเคยกินร้านนี้อยู่เป็นประจำ พอย้ายบ้านย้ายที่อยู่อาศัยก็ลืมไปเลย และหลายคนก็ได้มาแสดงความคิดเห็นในเพจเฟซบุ๊กของร้านในมุมที่ให้กำลังใจ ก็ต้องขอขอบคุณลูกค้าที่เป็นกำลังใจให้ ไม่เช่นนั้นตนอาจจะเครียดมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้ก็รู้สึกสบายใจขึ้น