พระธรรมกิตติเมธี (เกษม สัญญโต) กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีภาพพระสงฆ์กราบไหว้อดีตพระยันตระ หรือ นายวินัย ละอองสุวรรณ อดีตพระภิกษุชื่อดัง ที่เดินทางกลับมายังประเทศไทย ว่า เชื่อว่าพระสงฆ์ที่ปรากฏในภาพบนคลิป จะเป็นลูกศิษย์ของอดีตพระยันตระที่ยังคงให้ความเคารพนับถือ ซึ่งหากเป็นบุคคลทั่วไปที่เป็นฆราวาส เรื่องดังกล่าวคงไม่มีใครติดใจ แต่เมื่อเป็นพระสงฆ์จึงถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ที่ไปกราบไหว้บุคคลที่ไม่ใช่พระสงฆ์ที่มีพรรษาสูงกว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สมควร แม้อดีตพระยันตระ จะกล่าวอ้างยืนยันว่ายังเป็นพระ เพียงแต่ไม่ปลงผม หนวด แต่คณะสงฆ์ไทยถือว่าท่านปาราชิก ไม่สามารถดำรงตนในฐานะพระภิกษุได้อีกต่อไป ต้องสึก ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว ดังนั้น การกระทำของพระสงฆ์ที่ปรากฏตามภาพในโลกออนไลน์จึงถือเป็นความผิด อาบัติทุกกฎ คือ อาบัติที่เกิดจากการทำที่ไม่ดีไม่เหมาะสม คำว่า ทุกกฎ แปลว่า ทำไม่ดี กรรมใดผิดพลั้งและพลาด กรรมนั้นชื่อว่าทำไม่ดี คนทำชั่วอันใดในที่แจ้งหรือในที่ลับ บัณฑิตทั้งหลายย่อมติเตียนว่าเป็นคนทำชั่ว ทำไม่ดี ทำผิด เพราะเหตุนั้น กรรมนั้นจึงเรียกว่าทุกกฎ เป็นอาบัติเบา ส่วนมากเกี่ยวกับมารยาทต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม เช่น การฉันภัตตาหารที่ยังไม่ได้รับประเคน, การนุ่งห่มจีวรปล่อยชายไม่เรียบร้อย เป็นต้น ซึ่งโทษดังกล่าวไม่ได้ร้ายแรง เพียงแต่ให้พระสังฆาธิการชั้นผู้ใหญ่ ของพระสงฆ์ที่ต้องอาบัติทุกกฎ ทำการว่ากล่าวตักเตือน มิให้กระทำความผิดนั้นอีก

ด้านนายสิทธา มูลหงษ์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะโฆษก พศ. กล่าวว่า จากตรวจสอบสถานที่อดีตพระยันตระ เปิดให้พระสงฆ์ ลูกศิษย์ เข้าพบที่ จ.สระแก้ว นั้น คือ อาศรมเกพลิตาโพธิวิหาร ต.หนองบอน อ.เมือง จ.สระแก้ว เป็นที่ตั้งในนามของมูลนิธิ อยู่ในการดูแลของกรมการปกครอง ทั้งยังถือเป็นที่ส่วนบุคคล พศ. จึงไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบ ส่วนพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่ไปกราบไหว้อดีตพระยันตระนั้น ถือว่าไม่เหมาะสม แต่จากการตรวจสอบพระสงฆ์ที่ปรากฏในภาพกำลังกราบอดีตพระยันตระนั้น ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่าอาจจะเป็นพระสงฆ์จากสำนักสงฆ์ใน จ.กาญจนบุรี จึงแจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี (พศจ.กาญจนบุรี) ตรวจสอบอีกครั้ง หากพบว่าเป็นพระสงฆ์ใน จ.กาญจนบุรี จริง จะมีการประสานเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ พิจารณาลงโทษต่อไป