นางมานิชา ดอกรา ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืน เทเลนอร์ เอเชีย เปิดเผยว่า เทเลนอร์กรุ๊ปและองค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ทำการสำรวจเด็กและเยาวชน ในประเทศไทย มาเลเซีย บังกลาเทศ และปากีสถาน ในเรื่อง การกลั่นแกล้งทางโลกออนไลน์ หรือ ไซเบอร์บูลลี่ พบว่า 2 ใน 3 ของเยาวชน มองว่า การกลั่นแกล้งทางโลกออนไลน์ เป็นปัญหาร้ายแรงสำหรับเเด็กและเยาวชนในปัจจุบัน ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 เพิ่มปริมาณความชุก ปัญหาไซเบอร์บูลลี่จาก 25% เป็น 29% นอกจากนี้ ยังพบอีกว่ามีเยาวชน 14 % มีประสบการณ์ไซเบอร์บูลลี่ อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง โดยช่องทางโซเชียลมีเดีย แอพพลิเคชั่นส่งข้อความ และเกมออนไลน์ เป็น 3 ช่องทางออนไลน์หลักที่เยาวชนมีประสบการณ์การไซเบอร์บูลลี่มากที่สุด

โดยเด็กและเยาวชนแสดงความเห็นว่าควรมีการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับทักษะการรับมือกับไซเบอร์บูลลี่บนโซเชียลมีเดียมากที่สุด  56% ตามด้วยการรักษาความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ 46% และการรักษาและความสุขภาพจิต 43% นอกจากนี้การสำรวจพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามราว 70% ใช้เวลาบนโลกออนไลน์เพิ่มขึ้นตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาด โดย 34% ใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน ขณะที่ 24% ใช้อินเทอร์เน็ตในช่วงเย็นเป็นหลัก มีเพียง 7% เท่านั้นที่ใช้อินเทอร์เน็ตเฉพาะในเวลาเรียน โดยเด็กและเยาวชนในไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตในระดับสูง โดย 47% ของเด็กไทยใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ตามด้วยมาเลเซียที่ 45% บังกลาเทศ 35% และปากีสถาน 17%

“สถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้เด็กและเยาวชนใช้เวลาบนโลกออนไลน์มากขึ้น จึงมีความสำคัญที่ต้องมีการจัดหา แนวทางหรือวิธีการที่จะป้องกันพวกเขาจากภัยออนไลน์ การสร้างการรับรู้ จัดอบรมเกี่ยวกับไซเบอร์บูลลี่ และการพัฒนาความสามารถในการปรับตัวต่อภัยของโลกไซเบอร์ ซึ่งไม่ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ ของสถาบันการศึกษา เพียงอย่างเดียว แต่ควรดึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ เข้ามาร่วมมือกัน เพื่อต่อกรกับภัยออนไลน์เหล่านี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครอง ภาครัฐ ภาคประชาสังคม นักวิชาการ ตลอดจนองค์กรเอกชนอย่างเทเลนอร์ที่มีบทบาทต่อการส่งเสริมในการสร้างภูมิคุ้มกันทางออนไลน์เสมอมา” นางมานิชา กล่าว

โดยในช่วงเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา ดีแทคได้ชวนเยาวชนร่วมออกแบบข้อปฏิบัติร่วมเพื่อหยุดไซเบอร์บูลลี่ ภายใต้แคมเปญ #ให้ไซเบอร์บูลลี่จบที่รุ่นเรา ผ่านแพลตฟอร์มที่ได้รับการออกแบบในรูปแบบ JAM Ideation (https://www.safeinternetlab.com/brave) ต้อนรับเยาวชนให้เข้าไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเข้มข้น พร้อมนำข้อสรุปชงหน่วยงานภาครัฐและองค์กรที่ห่วงใยในประเด็นไซเบอร์บูลลี่ เพื่อประโยชน์ในการกำหนดแนวทางปฏิบัติในสังคม และกฎหมายเทียบเท่านานาชาติ

นางคริสตา ซิมเมอร์แมน ผู้อำนวยการฝ่ายโครงการ องค์การแพลนอินเทอร์เนชั่นแนล ภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า อินเทอร์เน็ตมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกัน ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจได้แสดงถึงความท้าทายที่สูงขึ้นบนภูมิทัศน์ดิจิทัล จากข้อมูลผลสำรวจขององค์การแพลนอินเทอร์เนชั่นแนลบ่งชี้ว่า เด็กและเยาวชนหญิงในเอเชียต่างเผชิญกับการล่วงละเมิดและถูกข่มขู่บนโลกออนไลน์ ทำให้พวกเธอเลิกใช้อินเทอร์เน็ต นำไปสู่โอกาสและเสียงที่ถูกจำกัดในการได้ยินบนโลกออนไลน์ ดังนั้น การสร้างโอกาสที่เท่าเทียมระหว่างเพศบนโลกออนไลน์จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว การส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในการใช้อินเทอร์เน็ตในเด็กและเยาวชนผู้หญิง ตลอดจนครอบครัว จึงมีความจำเป็นอย่างมาก