สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ว่าเป้าหมายของระบบแลกเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกจะดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยตั้งเป้าลดการปล่อยมลพิษให้ต่ำกว่าร้อยละ 27 ในปี 2569 หรือร้อยละ 35 ของระดับปี 2562
ภาคส่วนน้ำมันและก๊าซของแคนาดาเป็น 1 ใน 4 ผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นแหล่งผลิตคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใหญ่ที่สุดในแคนาดา ซึ่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึงร้อยละ 31 ในปี 2565
อย่างไรก็ตาม จังหวัดที่อุดมไปด้วยน้ำมัน อาทิ รัฐอัลเบอร์ตา และกลุ่มธุรกิจ ได้แสดงความไม่พอใจกับมาตรการดังกล่าว ซึ่งเขาเชื่อว่าจะจำกัดการผลิตน้ำมันและก๊าซ
นายสตีเวน กิลโบต์ รมว.สิ่งแวดล้อมแคนาดา กล่าวว่า ภาคส่วนน้ำมันและก๊าซของประเทศ ก่อมลพิษมากกว่า 2 เท่าของมลพิษจากอุตสาหกรรมหนักและเบาอื่น ๆ ทั้งหมดรวมกัน แผนการดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่มลพิษ รวมถึงการสร้างแรงจูงใจให้บริษัทต่าง ๆ ลงทุนในการลดคาร์บอน เช่น การดักจับ และกักเก็บคาร์บอน
???? Canada’s approach to carbon pollution pricing is flexible. Any province or territory can design its own pricing system tailored to local needs or can choose the federal pricing system.
— Environment Canada (@environmentca) October 31, 2024
Learn more: https://t.co/3mh2L1KYeL#Fact pic.twitter.com/UCyiNrUmnf
กฎเกณฑ์ที่เสนอ จะครอบคลุมกิจกรรมเกี่ยวกับน้ำมันและก๊าซต้นน้ำ รวมถึงการผลิตน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่ง, การทำเหมืองทรายน้ำมันในรัฐอัลเบอร์ตาและการปรับปรุง และการผลิตและแปรรูปก๊าซธรรมชาติ รวมถึงก๊าซธรรมชาติเหลว
ทั้งนี้ บริษัทต่าง ๆ จะได้รับการจัดสรรค่าปล่อยก๊าซเรือนกระจก และบริษัทเหล่านี้จะได้รับอนุญาตให้ซื้อคาร์บอนเครดิตจากบริษัทอื่น ๆ ได้ หากพวกเขาปล่อยมลพิษเกินเกณฑ์
ตั้งแต่ปี 2570 บริษัทใหญ่ในภาคส่วนน้ำมันและก๊าซ ต้องนำเสนอรายงานการปล่อยก๊าซประจำปี ตามด้วยผู้ประกอบการรายย่อยในปี 2572 ขณะที่ขีดจำกัดในการปล่อยก๊าซจะถูกบังคับใช้ในปี 2573
หลังประกาศดังกล่าว กลุ่มสิ่งแวดล้อมได้แสดงความยินดี พร้อมเรียกกฎระเบียบเหล่านี้ว่าเป็น “ครั้งแรกในประวัติศาสตร์” และถือเป็นข่าวดี.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES