เมื่อเวลา 16.35 น. วันที่ 13 พ.ย. 67 ที่ วัดศรีนคราราม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงเวทีปราศรัยที่วัดศรีนคราราม ตำบลกุมภวาปี อำเภอกุมภาวปี จังหวัดอุดรธานี โดยทันทีที่มาถึงได้ขึ้นกราบนมัสการ พระราชวัชรสุทธิ์ รองเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี โดยพระราชวัชรสุทธิ์ ได้มอบเหรียญพระเจ้าใหญ่ ให้กับนายทักษิณ พร้อมสนทนาตอนหนึ่ง ว่า ขอให้นายทักษิณหมั่นนั่งสมาธิ สวดมนต์ เพื่อให้จิตใจผ่องใส ไม่วุ่นวาย มีความสุข จะได้เป็นที่พึ่งของลูกหลาน ประชาชน เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

โดยพระราชวัชรสุทธิ์ ได้สอบถามกับนายทักษิณ ในช่วงที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง นายทักษิณ ตอบกลับว่า 17 ปีที่ผ่านมาก็ต้องอดทนอดกลั้น และต่อไปนี้ตนจะขอกลับมาทำนุบำรุงศาสนา พร้อมกับหันกลับไปฝากกับทีมงานว่าหากขาดแคลนอะไรให้แจ้งมา

จากนั้นได้ลงมาทักทายกับประชาชนที่มารอฟังการปราศรัย พร้อมกับเดินขึ้นเวทีโบกมือและจับมือทักทายกับประชาชน

โดยนายทักษิณ ได้เดินขึ้นมาทักทายประชาชน รับดอกไม้จากมวลชนคนเสื้อแดงที่มาร่วมฟังปราศรัย และมาให้กำลังใจอย่างเป็นกันเอง พร้อมกล่าวว่า คิดฮอดพี่น้องคนอุดรฯ หลายเด้อ นี่ 18 ปี เพิ่งจะได้ปราศรัยครั้งนี้ครั้งแรก ปราศรัยที่อุดรฯ ที่บอกว่าเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง จากไป 18 ปีนี้ รวยขึ้นหรือยัง แต่ก่อนตอนที่ตนอยู่ คนอุดรฯ มีควายหลายตัว แต่วันนี้เหลือกี่ตัว ขายหมดแล้ว เหลือแต่ชีวิต ควายไม่เหลือ เหลือแต่ชีวิต คนไม่ทันตอนที่ตนเป็นนายกฯ ตอนตนเป็นนายกฯ 20 กว่าปี ตอนนี้ ตนแก่แล้ว อายุ 75 ปีแล้ว

วันนี้ขอเล่าความในใจนิดหนึ่ง ที่มาที่นี่ก็ขอพูดเล่นก่อนแล้วกันค่อยพูดจริง ตอนนี้ตนกลับมาประเทศไทย มีเงินเดือน 700 บาท ค่าเบี้ยคนชรา วันนี้นายศราวุธ เพชรพนมพร ก็จ้างตนมาหาลำไพ่พิเศษวันละ 300 บาท เพราะกลัวไม่พอกินข้าว แต่ตอนนี้จวนจะ 400 แล้ว เหลือเทคนิคนิดหน่อย แต่จริงๆ แล้วอยากมาขอบคุณพี่น้อง โดยเฉพาะคนอุดรฯ ที่ไม่เคยลืมตนเลย เงิน 10,000 ได้แล้ว เดี๋ยวมาอีก ใครอายุเกิน 60 เห็นว่าเงิน 10,000 จะมาแล้วพี่น้อง ตนเลือกมาที่อุดรฯ เพราะว่าอยากมาขอบคุณพี่น้องชาวอุดรฯ ที่ 17 ปีที่ออกไป ไม่เคยลืม ตั้งแต่ตอนที่ อดีตนายก อบจ.วิเชียร ลงเลือกตั้งนายกอบจ. ได้เขียนจดหมายมาพี่น้องก็เลือกกันถล่มทลาย แต่วันนี้นายศราวุธ ลงสมัครเอง ตนมาเอง ไม่ต้องเขียนจดหมาย มาตัวเป็นๆ

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนเป็นห่วงเรื่องปัญหาหนี้สิน ความยากจน วันนี้เป็นห่วงคนไทย โดยเฉพาะคนต่างจังหวัด ที่เขาบอกว่าแม่ติดหวย พ่อติดเหล้า ลูกติดยา ขอให้พี่น้องอย่าเล่นหวยมาก เก็บเงินไว้ทำมาหากิน วันนี้ตนอยู่เมืองนอกมา 17 ปี ที่อยู่ได้ เพราะยึดหลักคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า รู้จักจิตปล่อยวาง ไม่ไปลุ่มหลง แต่หากไปเห็นอะไรก็จะนึกถึงประเทศไทย 17 ปีไม่รู้จะได้กลับเมื่อไหร่ แต่ในใจคิดอย่างเดียวว่า “กูต้องกลับ แต่จะกลับอย่างไร ไม่รู้ ขอแค่สู้ไปเรื่อยๆ”

นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้ได้กลับมา กลับมากราบพระเจ้าอยู่หัว ได้กลับมากราบพระพุทธศาสนา ได้กลับมาเจอพี่น้องประชาชน วันนี้ตนขอแอบนินทาลูกสาว คือนายกฯ อิ๊งค์ เขาบอกตนว่า พ่อ วันนี้อิ๊งค์ต้องห่วงชาวบ้านที่เป็นหนี้เยอะ ช่วยกันคิดหน่อยว่าจะเอาอย่างไรดี แต่วันนี้มีทางออกแล้ว เดี๋ยวมีบอกว่าเราจะลดหนี้ให้ชาวบ้านอย่างไร เราจะทำให้ชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้อย่างไร

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนไม่มีสิทธิที่จะครอบงำลูก เพราะตนรักลูกแบบเกรงใจมาก ฉะนั้น จึงขอให้ลูกครอบงำแทน บางครั้งลูกนั่งคุยกับตนแต่ก็สั่งตนสั่งให้ทำนั่นทำนี่ให้หน่อย สิ่งที่นายกฯ เป็นห่วงคือเรื่องหนี้สิน และเรื่องของรายได้ แล้ววันนี้บอกว่าเบื้องต้นการให้เงินคนละ 10,000 บาท เป็นสิ่งจำเป็นเริ่มต้น เพื่อให้ชาวบ้านตั้งหลัก พร้อมกันนี้ ต้องลดหนี้ และเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรายได้ทางการเกษตร และทางด้านโอกาสของประชาชน

นายทักษิณ กล่าวว่า นายกฯ อิ๊งค์บอกอีกว่า เป็นห่วงชาวบ้าน เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ เราจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านมีการศึกษาได้ดีกว่านี้ สิ่งหนึ่งที่ตนพูดกับลูก คือเราต้องเปลี่ยนทัศนคติของคนไทย อย่าไปมุ่งเอาประกาศนียบัตร บางคนในกรุงเทพฯ เรียนแล้วเรียนอีก ก็ไม่ได้ทำให้ฉลาดขึ้น เพราะโลกเปลี่ยนไปแล้ว การเรียนอย่างเดียวไม่พอ วันนี้เห็นบอกว่าหารายได้มาช่วยเรื่องการศึกษาเด็กแล้ว วันนี้เราจึงพยายามจูงใจให้นักลงทุนนำเงินมาลงทุนในประเทศ เพื่อสร้างงาน และมีรายได้มากขึ้น แต่ตนบอกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการกระจายความเจริญสู่ต่างจังหวัด แล้ววันนี้เห็นแล้วว่าระหว่างที่นั่งรถมามีร้านที่เปิดใหม่มากขึ้น แต่มันเงียบหน่อย เพราะคนไม่มีกำลังซื้อ

นายทักษิณ กล่าวว่า ขอให้ฟังให้ดี พี่น้องช่วยไปบอกพ่อค้าขายยาด้วยว่า “วันนี้ทักษิณกลับมาแล้ว ทักษิณเกลียดพ่อค้าขายยามาก ไม่อยากเห็นหน้าสักคน” แล้วอย่าลืมไปบอกตำรวจด้วย เห็นใจตำรวจ เพราะตอนที่ตนไม่อยู่ การแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจต้องเสียเงิน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายในสังคมไทยในช่วงที่ตนไม่อยู่ 17 ปี ฉะนั้น จึงสงสารตำรวจ ต่อไปนี้นายกฯ อิ๊งค์ บอกว่า ต่อไปนี้จะไม่มีการใช้เงินในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ แล้วยาเสพติดจะหายไปไม่ยาก และวันนี้นายกฯ อิ๊งค์ จึงบอกว่าจะจับมือกับอนุทิน เพื่อจัดการกับยาเสพติด และขอให้ประชาชนอย่าไปชินชากับมัน เราต้องจัดการกับมัน และตนไม่ชินชากับพวกนี้เด็ดขาด

“วันนี้เวลาที่คุณอิ๊งค์สั่งงานอะไร ผมก็รู้สึกว่า ผม ผมยาวแล้วเหรอ หน้าตาเหมือนหรือไม่ เหมือน แต่ว่าเขาสวยกว่าผม แต่ผมหล่อกว่า” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ เล่าย้อนไปถึงสมัยที่หาเสียง ว่า นายกฯ อิ๊งค์เคยไปด้วย ซึ่งก็เห็นแววตั้งแต่ตอนนั้นว่าจะเป็นนายกฯ ที่ดี และจะดีกว่าตน เพราะเป็นตอนอายุยังน้อย เชื่อว่าสิ่งที่เขาเห็นจากตน.