นายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ปณท มีแผนเชื่อมโยงเศรษฐกิจอาเซียนให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น โดยไปรษณีย์ไทย การไปรษณีย์เวียดนาม และ การไปรษณีย์อินโดนีเซีย พร้อมด้วยที่ปรึกษาพิเศษจำนวน 2 ราย คือ เพย์เทค บริษัทจดทะเบียนตามกฎหมายเวียดนาม และ โคต้า บริษัทจดทะเบียนตามกฎหมายสิงคโปร์ ร่วมลงนามในข้อตกลงและบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ในการจัดตั้ง “Regional ASEAN Post Alliance – RAPA” หรือ ราพา เพื่อทำให้เกิดความร่วมมือในด้านขนส่งและระบบไปรษณีย์ระหว่างชาติอย่างเป็นรูปธรรม ใน 4 ด้าน คือ 1.ด้านพันธมิตรอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนที่จะมีการเชื่อมโยงระบบการค้าออนไลน์และออฟไลน์ การพัฒนาโมเดลโลจิสติกส์ให้มีรูปแบบเดียวกัน การพัฒนาคิวอาร์โค้ด เพื่อให้สะดวกต่อการทำธุรกรรม
2.ด้านการขยายตลาดอีคอมเมิร์ซของอาเซียนให้เป็นศูนย์กลางและไปสู่ตลาดโลก โดยไปรษณีย์ไทยมีแผนผลักดันสินค้าเมดอินไทยแลนด์-เวียดนาม ให้ไปสู่ตลาดโลกโดยมีความร่วมมือกับการไปรษณีย์เวียดนามในรูปแบบของ ราพา ช็อป ซึ่งเป็นโครงการที่จะพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ นำสินค้ายอดนิยมมาจำหน่ายบนแพลตฟอร์มที่จะพัฒนาขึ้น และมีการจัดส่งถึงผู้สั่งซื้อแบบครบวงจรด้วยบริการของเครือข่ายไปรษณีย์ ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับการไปรษณีย์ของทั้ง 2 ประเทศ ทั้งนี้ ในส่วนของตัวอย่างสินค้าไทยที่มีศักยภาพเจาะตลาดเวียดนาม เช่น กาแฟ กลุ่มสินค้าจากด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งอาหารแปรรูป เครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง ฯลฯ
3.ด้านการพัฒนาพันธมิตรด้านโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานรูปแบบใหม่ เช่น การเชื่อมโยงระบบคลังสินค้า การใช้เทคโนโลยีขนส่งขั้นสูงตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางเพื่อให้การขนส่งมีความรวดเร็วขึ้น และ 4.ด้านการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่าง 3 ประเทศ ทั้งด้วยแนวการเพิ่มผลกำไร การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และด้านความยั่งยืน
‘เวียดนามเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่มีความน่าสนใจ ที่ผ่านมามีตลาดเกิดใหม่ที่เป็นโอกาสสำหรับหลาย ๆ ธุรกิจและอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค และไฮไลต์อย่างค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ ที่มีปัจจัยการขยายตัวทั้งจากผู้บริโภคในเวียดนามที่ใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เดือนละราว 1 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีการเข้าไปดำเนินธุรกิจด้านแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการจากต่างประเทศ และเวียดนามยังเป็น 1 ใน 10 ตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตเร็วที่สุดของโลก’