เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องกรณีนายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง ขณะที่กกต.กำลังพิจารณากรณีที่มีผู้ร้องให้ยุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากการที่นายทักษิณและ 6 พรรคการเมือง กระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องการใช้เสรีภาพ เฉพาะมาตรา 49 ที่เขียนว่าการใช้เสรีภาพเพื่อการล้มล้างทำไม่ได้ เสรีภาพถูกรับรองโดยรัฐธรรมนูญ ประชาชนทุกคนมีเสรีภาพ นั่นคืออำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ นายทะเบียน หรือ กกต. พิจารณาสิ่งที่กฎหมายห้ามกระทำของพรรคการเมืองจะต่างกัน จึงไม่เกี่ยวกันเลยทั้ง 2 เรื่อง ข้อมูล ข้อเท็จจริงอาจเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ว่าเราถือกฎหมายคนละฉบับ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ ว่าการใช้สิทธิเสรีภาพนั้นเพื่อเป็นการล้มล้าง แต่ กกต. หรือนายทะเบียน จะพิจารณาว่าการกระทำนั้น ผิดกฎหมายพรรคการเมือง อันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคหรือไม่

“ผมยกตัวอย่างครั้งที่แล้ว ที่นายทะเบียนไม่รับเรื่องของพรรคก้าวไกลไว้พิจารณา กฎหมายบอกว่าไม่รับไปดำเนินการ แต่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้ มีนักข่าวมาถามว่าทำไม กกต. ไม่รับ เพราะกรณีนั้นเป็นกรณีใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ กกต. ไม่มีอำนาจที่จะไปพิจารณาเรื่องเหล่านั้น เกินขอบอำนาจของ กกต. ซึ่งกกต. ไม่ได้เข้าไปพิจารณาในเนื้อหา และไม่รับไว้ดำเนินการเพราะไม่อยู่ในเขตอำนาจเรา แต่กรณีหลังมีคนมาร้องว่ามีพรรคการเมืองกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมืองอันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคการเมือง  นายทะเบียนก็รับไว้เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน จะเป็นคนละประเด็นกับที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้ ทั้งที่เป็นข้อเท็จจริงเดียวกัน” นายแสวง กล่าว 

เมื่อถามต่อว่าคำร้องหลายคำร้อง ที่มีลักษณะคล้ายกัน กกต. ยังเดินหน้าตรวจสอบต่อไป นายแสวง กล่าวว่า เราก็ทำตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ของเรา