เมื่อวันที่ 23 พ.ย. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากใน จ.พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และมีฝนตกหนักบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง และสตูล ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปช. มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานงานกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจ.นครศรีธรรมราช ชุมพร และพัทลุง พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัย ให้กลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติเร็วที่สุด รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ และระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนในภาคใต้ตั้งแต่ จ.ชุมพร ลงไป ต้องเฝ้าระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันยังมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย สำหรับภาคเหนือยังมีอากาศหนาวเย็น ที่บริเวณยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิต่ำสุด 7 องศาเซลเซียส ด้านกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเริ่มอุ่นขึ้น เนื่องจากมวลอากาศเย็นเริ่มแผ่วลง