เมื่อวันที่ 28 พ.ย. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ มีมุสิก สว.กก.5 บก.ป. จับกุม นายวิรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี และนายณัฐชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” พร้อมของกลาง มิเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกดัดแปลง 1 เครื่อง เครื่องขุดบิตคอยน์ 97 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่โรงงานแปรรูปไม้ยางพาราแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/11/IMG_3879-1-1280x720.jpg)
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ทราบว่า โรงงานแปรรูปไม้ยางพาราของนายวิรัตน์ และนายณัฐชัย สองพ่อลูก มีดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้า เพื่อลักใช้กระแสไฟฟ้าทำธุรกิจขุดบิตคอยน์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดไชยา ออกหมายค้น ก่อนประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าว ก่อนพบว่ามีการกระทำผิดจริง จึงทำการจับกุมตัวทั้งสอง พร้อมตรวจยึดเครื่องขุดบิตคอยน์ และมิเตอร์ไฟฟ้าที่ถูกดัดแปลงไว้เป็นของกลาง
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/11/IMG_3878-1-1280x720.jpg)
สอบสวน นายวิรัตน์ ผู้เป็นพ่อให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าแต่อย่างใด เพียงแค่ทราบว่า นายณัฐชัย บุตรชาย ได้ติดต่อให้เพื่อนนำเครื่องขุดบิตคอยน์มาติดตั้งที่ในโรงงานตั้งแต่ประมาณต้นปี 2566 ซึ่งตนแค่สนับสนุนในเรื่องเงินลงทุนเพียงเท่านั้น
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/11/IMG_3880-1-1280x720.jpg)
ขณะที่ นายณัฐชัย ให้การรับสารภาพลักกระแสไฟฟ้ามาใช้งานกับเครื่องขุดบิตคอยน์ดังกล่าวจริง ทำมาตั้งแต่ปี 2566 ส่วนเรื่องมิเตอร์ไฟที่ถูกดัดแปลงให้อ่านค่าได้น้อยกว่าความเป็นจริงนั้น เกิดจากตนได้ว่าจ้างช่างรายหนึ่ง ที่มีความชำนาญมาดัดแปลงแก้ไขให้
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบปริมาณการใช้ไฟฟ้าพบว่า หากไม่มีมีการดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้า เครื่องขุดบิตคอยน์ของกลางจำนวน 97 เครื่องจะต้องเสียค่าไฟเดือนละประมาณ 1 ล้านบาท แต่โรงงานดังกล่าว ได้ชำระค่าไฟจริง เดือนละประมาณ 6-7 หมื่นบาทเท่านั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวทั้งสอง ส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.