บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า วันนี้ (29 พ.ย.) จะมีการประชุมเจ้าหนี้การบินไทยผ่านระบบออนไลน์ มีวาระพิจารณาสำคัญเรื่องการแปลงหนี้เพิ่มทุนโดยลดมูลค่าหุ้น หรือ Par Value เพื่อล้างผลขาดทุนสะสมหลักทรัพย์ประมาณ 60,000 ล้านบาท และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้กับเจ้าหนี้ราคาหุ้นละ 2.5452 บาท เพื่อชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ตามแผนฟื้นฟู และขอมติที่ประชุมโหวตเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ
โดยทางกระทรวงการคลัง ได้เสนอขอเพิ่มผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ 2 ราย คือนายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) กระทรวงคมนาคม และนายพลจักร นิ่มวัฒนา รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคล.) กระทรวงการคลัง เพิ่มจากปัจจุบันคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูมี 3 ราย ประกอบด้วยนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร และ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจ การคลัง ในฐานะผู้แทนกระทรวงการคลัง

ซึ่งก่อนหน้านี้สหภาพแรงงานการบินไทยฯ ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านขอให้เจ้าหนี้โหวตไม่เห็นชอบ เนื่องจากกังวลว่าจะเป็นช่องทางในการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง ประกอบกับในการเริ่มกระบวนการปรับโครงสร้างทุน เปิดให้เจ้าหนี้ใช้สิทธิแปลงหนี้เป็นทุนวันที่ 19-21 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา มีเจ้าหนี้จำนวนมากแสดงเจตนารวมกันเกินกว่า 3 เท่าของจำนวนหุ้นที่มีรองรับตามแผนฟื้นฟูกิจการ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในธุรกิจของการบินไทย โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงการคลังมีการแปลงหนี้ตามสิทธิ 100%
แต่เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 567 การบินไทยได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วของบริษัท อันเกิดจากการแปลงหนี้เป็นทุนของแผนฟื้นฟูกิจการตามที่ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งอนุญาตให้ดำเนินการ ปรากฏว่า สำนักงานบริการหนี้สาธารณะ(สบน.) กระทรวงการคลังมีหนังสือถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้าขอให้ชะลอการจดทะเบียนจนหลังวันที่ 29 พ.ย. 67
ผลที่ตามมาจากการจดทะเบียนล่าช้า ได้ส่งผลกระทบทางการเงินต่อการบินไทย ค่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ วันละ 2 ล้านบาท การบินไทยฯต้องดำเนินการตามกฏหมายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งต่อไป เบื้องต้นเตรียมยื่นฟ้องนายทะเบียน พนักงานกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติปหน้าที่ อันส่งผลเสียหายแก่บริษัท
เนื่องจากหากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินการตามคำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระแล้วของบริษัทแล้วเสร็จ ก็จะมีผลทำให้กระทรวงการคลังไม่เป็นเจ้าหนี้การบินไทย และกลับสู่สถานะการเป็นผู้ถือหุ้น เพราะปัจจุบันกระทรวงการคลังแปลงหนี้ทั้งหมด 100% แล้ว และเมื่อไม่ได้เป็นเจ้าหนี้ก็จะไม่มีสิทธิในการโหวตแก้ไขแผนฟื้นฟูที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้

ดังนั้นการประชุมเจ้าหนี้ในวันนี้น่าจะหยิบยกประเด็นการพิจารณาสถานะเจ้าหนี้ของกระทรวงการคลังมาหารือ เพื่อพิจารณาใช้สิทธิการเป็นเจ้าหนี้โหวตแก้ไขแผนฟื้นฟู ซึ่งรวมถึงวาระการเพิ่มผู้บริหารแผน หากหาข้อสรุปไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับศาลในการพิจารณาตีความการเป็นเจ้าหนี้ของกระทรวงการคลัง