ติดตามกันต่อเลยกับ “โค้ชเปรม” อัครพล อ่อนศรี โค้ชฟุตบอลหนึ่งเดียวของไทยในลีกกัมพูชา ตอนนี้ ไปติดตากันว่า เขาผ่านประสบการณ์อะไรมาบ้าง และไปทำงานในกัมพูชาได้อย่างไร

หันเหสู่การเป็นโค้ชได้อย่างไรครับ?

เริ่มจากวันที่เลิกเล่นฟุตบอลครับ ตอนนั้นเรามีบางอย่างในใจเรื่องฟุตบอลครับ คือเลิกเล่นฟุตบอลแต่ยังอยากทำอะไรที่เกี่ยวกับฟุตบอลครับ เราก็มามองตัวเองประเมินตัวเองว่าเราเก่งอะไรบ้าง สรุปคือเราพูดเก่งครับ เป็นคนชอบพูด ก็เลยเริ่มศึกษาเรื่องโค้ชตั้งแต่อายุ 20 ครับ

เริ่มสอนครั้งแรกเลยคือ มีเพื่อนที่มหาลัยครับโทรมาถามว่าวันนี้ว่างไหม ช่วยมาสอนเด็กที่อคาเดมี่แถวมหาวิทยาลัยหน่อย ผมก็ลองไปสอนดูแล้วผมรู้สึกว่าผมชอบครับ ชอบมากๆ ตอนนั้นคิดแบบไปสอนได้เงินไม่ได้เงิน ผมทำหมด ผมอยากลองทำมากๆ ก็เลยทำมาเรื่อยๆครับ แล้วเราก็หาเวลาไปเรียนเกี่ยวกับเรื่องโค้ชครับ

จนถึงช่วงฝึกงานของมหาลัยครับ ผมไปฝึกงานที่สโมสร อาร์มี่ ยูไนเต็ดครับ แต่ไม่ได้ฝึกในภาคสนามนะครับ ฝึกในออฟฟิศ แล้วช่วงนั้นมีฟุตบอลประเพณีครับ ทางมหาลัยติดต่อให้ผมไปเป็นผู้ช่วยโค้ชประตูครับ ซึ่งตอนนั้นเป็น “พี่ปู วิรัช วังจันทร์” ครับ ก็เลยเป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานใหญ่ๆครับ

หลังจากนั้นทางมหาลัยก็ติดต่ออีกครั้งครับ คราวนี้ให้เป็นโค้ชประตูที่สโมสรโดม เอฟซี เราก็ตกลงทำเลยครับ ผลงานคือปีนั้นตกชั้นครับ ลงไปอเมเจอร์ลีกเลย

หลังจากนั้นผมเป็นคนโชคดีครับ ก็ไปได้งานที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยในตอนนั้นเข้ามาเป็นผู้ประสานงานคอร์สอบรมครับ ไม่ได้เริ่มจากเป็นโค้ชนะครับ เราใช้ช่วงเวลาตรงนี้เรียนรู้ครับ เราได้เจอคนเก่งๆมากขึ้น ได้เจอคนที่มีประสบการณ์ บวกกับอยู่ตรงนั้นเราได้เรียนไลเซนส์โค้ชด้วย เป็นโชคดีมากๆครับ

แล้วก็เลยมีโอกาสครั้งแรกที่ได้สัมผัสกับทีมชาติคือรุ่น 14 ปีครับ ช่วงนั้นพี่ที่เป็นโค้ชประตูรุ่นนั้นติดภารกิจครับ ผมเลยได้มีโอกาสไปช่วย ตรงนั้นเป็นจุดที่จุดไฟในตัวผมเลยครับ

แล้วหลังจากนั้นมีโครงการของ Toyota ครับ ที่จะคัดเด็ก 12 ปี ไปแข่งที่ญี่ปุ่น ซึ่งอันนี้ถือเป็นรายการแรกของผมเลยครับ เป็นชุดที่ชนะบาร์เซโลนา ที่มี “ลามีน ยามาล” เล่นในตอนนั้น หลังจากนั้นก็เริ่มทำทีมชาติเต็มตัวครับ มาเป็นรุ่น 14 ปี แต่ช่วงนั้นมีโควิดครับ ทุกอย่างก็ต้องพักไว้ก่อน

กลับจากโควิดมาก็เป็นรุ่น 16 ปีครับ ชุดนี้เฮ้ดโค้ชเป็น “พี่โม้ ภิพบ อ่อนโม้” ผู้ช่วยเป็น “พี่ชุ่ม ชยกร ถนัดเดินข่าว” แล้วก็ผมเป็นโค้ชประตูครับ ชุดนี้ได้ที่ 3 ชิงแชมป์อาเซียน แล้วก็ได้รางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์

หลังจากนั้นก็มาแข่งรายการชิงแชมป์เอเชีย ตกรอบ8ทีม สุดท้ายครับ แพ้เกาหลีใต้ ที่ บีจี สเตเดี้ยม ถ้าชนะนัดนี้คือจะได้ไปฟุตบอลโลกครับ

หลังจากจบทัวร์นาเมนต์นี้ทางสมาคมได้ยื่นโอกาสให้ครับ คือเป็นหัวหน้าโครงการ Talent ID ที่จะคอยคัดเด็กจากทั้วประเทศมาสู่ทีมชาติ เด็กๆชุดนั้นก็คือชุด u17ปัจจุบันนี้ครับ

ซึ่งหลังจากได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ตัวผมเองในชุดนี้ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นผู้ช่วยโค้ชประตูแทนครับ เราก็เรียนรู้จากคนเก่งๆอยู่เหมือนเดิมครับ จนเรารู้สึกว่า เราอยากเก่งขึ้นกว่านี้ อยากท้าทายมากกว่านี้ แล้วก็พอดีกับมีออฟเฟอร์จากทางกัมพูชามาพอดีครับ

ติดตามตอนที่ 3 เร็วๆนี้