ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มักซิมิเลียโน อาคอสตา ชายหนุ่มชาวอาร์เจนตินาขึ้นรถบัสจากเมืองเมนโดซาไปยังกรุงบัวโนสไอเรส ไม่นานหลังจากนั้น รถบัสจอดที่เมืองลาปาซเพื่อให้ตำรวจขึ้นมาตรวจสอบตามปกติ 

แต่เมื่อตำรวจตรวจสอบสัมภาระของผู้โดยสาร พวกเขาก็พบว่า อาคอสตามีแป้งฝุ่นสำหรับโรยเท้าติดมาด้วยเป็นจำนวนมากถึง 18 กระป๋อง จึงดำเนินการซักถามเขาทันที แม้อาคอสตาจะอธิบายว่า กระป๋องเหล่านั้นคือแป้งทาเท้าธรรมดา แต่ตำรวจก็ยังคงควบคุมตัวเขาไว้โดยตั้งข้อสงสัยว่ามียาเสพติดอยู่ในครอบครอง

หลังจากอาคอสตาโดนจับกุม เจ้าหน้าที่ก็นำผงแป้งไปทดสอบและระบุว่า กระป๋องเหล่านั้นเต็มไปด้วยผงโคเคน ระหว่างนั้นอาคอสตาโดนจับขังคุกโดยไม่มีการแจ้งให้ครอบครัวของเขาทราบเลยแม้แต่น้อย

ต่อมาในวันที่ 2 ต.ค. 2567 ตำรวจออกแถลงการณ์ว่า พบพลเมืองพกแป้งฝุ่นโดยอ้างว่าเป็นของใช้สำหรับสุขอนามัยส่วนตัว แต่ภายในคือผงโคเคน โดยยาเสพติดที่ยึดได้ในครั้งนี้มีทั้งหมด 2 กิโลกรัม 444 กรัม ปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ถึงขนาดที่รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงของอาร์เจนตินา แพทริเซีย บูลล์ริช ได้โพสต์เรื่องนี้บนโซเชียลมีเดียด้วย

หลังจากที่อาคอสตาออกมาประท้วง จึงได้มีการส่งผงสีขาวในกระป๋องแป้งเหล่านั้นตรวจสอบซ้ำที่ห้องแล็บอีกแห่งหนึ่ง แต่เขาจะต้องโดนจำคุกจนกว่าผลการตรวจสอบครั้งที่ 2 จะออกมา อาคอสตากล่าวหาว่า ฝ่ายตำรวจไม่ยอมแจ้งให้ครอบครัวของเขาทราบว่าเขาถูกจับกุม

แม่ของอาคอสตาให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า ครอบครัวของเขาตามหาเขาอยู่นานถึง 2 วันกว่าจะเจอว่าเขาอยู่ในคุก พวกเขาต้องไล่ถามคนอื่น ๆ ไปทั่ว แต่แทบไม่มีใครรู้ร่องรอยของเขาเลย 

อาคอสตาโดนขังคุกอยู่นานถึง 21 วัน จนกระทั่งได้ผลการตรวจครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งชี้ชัดว่าผงสีขาวเหล่านั้นเป็นเพียงผงแป้งฝุ่นธรรมดา เขาจึงได้รับการปล่อยตัวออกจากห้องขัง โดยไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ซ้ำเจ้าหน้าที่ยังปล่อยให้เขาโบกรถกลับบ้านเองอีกด้วย อีกทั้งทรัพย์สินและเงินสดของเขาที่ตำรวจยึดไว้ก็โดนขโมยไปขณะที่เขาอยู่ในคุก

ส่วนโฆษกตำรวจก็เพียงแถลงว่า การจับกุมอาคอสตาในครั้งนี้เป็นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น ส่วนรมต. บูลล์ริชแก้ต่างว่า การสืบสวนไม่ได้เกิดความผิดพลาด บ่อยครั้งที่นำแป้งฝุ่นไปตรวจสอบหาสารเสพติดแล้วจะให้ผลว่ามีโคเคนผสมอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งเตือนไปแล้วว่า ผลการตรวจสอบนี้อาจมีความคลาดเคลื่อน

ส่วนข้อสงสัยว่าทำไมอาคอสตาจึงขนแป้งฝุ่นทาเท้าถึง 18 กระป๋องมาด้วยนั้น แม่ของเขาอธิบายว่า ลูกชายของเธอคิดว่าจะซื้อแป้งเหล่านี้ไว้เพื่อนำมาขายต่อในบัวโนสไอเรส แต่เนื่องจากมีกระป๋องแป้งอยู่กับตัวเป็นจำนวนมากจึงทำให้เขาดูน่าสงสัยในสายตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะนี้ครอบครัวของอาคอสตากำลังพิจารณาว่าจะยื่นฟ้องฝ่ายตำรวจรัฐต่อศาลเพื่อเรียกร้องให้มีการชดเชยหรือไม่ รวมถึงอาจจะฟ้ององค์การปกครองส่วนจังหวัดร่วมด้วย

ที่มา : sitioandino.com.ar, odditycentral.com, benzinga.com

เครดิตภาพ : X / PatoBullrich