ที่ กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้การต้อนรับนางฆอดะฮ์ วาลี (Ms. Ghada Waly) ผู้อํานวยการบริหารสํานักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (Executive Director, United Nations Office on Drugsand Crime: UNODC) และผู้อํานวยการใหญ่สํานักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา (Director-General, United Nations Office at Vienna: UNOV) โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. ให้การต้อนรับ
โดยได้มีการหารือในประเด็นที่สำคัญต่างๆ ได้แก่ การป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา การปราบปรามและการควบคุมยาเสพติด การส่งเสริมหลักนิติธรรม และการพัฒนาพฤตินิสัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมแนวทางการปฏิบัติตามข้อกําหนดสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงและมาตรการ ที่มิใช่การคุมขังสําหรับผู้กระทําผิดหญิง (United Nations Rules for the Treatment of Women Prisoners and Non-Custodial Measures for Women Offenders) หรือ ข้อกําหนดกรุงเทพ (Bangkok Rules) ซึ่งจะครบรอบ 15 ปี ในปี 68

รวมถึงการพัฒนาความร่วมมือในกรอบคณะกรรมาธิการภายใต้ UNODC ที่ไทยเป็นสมาชิกในปัจจุบัน ได้แก่ คณะกรรมาธิการยาเสพติด (Commission on Narcotic Drugs: CND) และคณะกรรมาธิการว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา (Crime Prevention and Criminal Justice: CCPCJ) ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างกระทรวงยุติธรรม และ UNODC ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ผ่านความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางด้านวิชาการ การฝึกอบรม และความช่วยเหลือในลักษณะอื่นๆ ตลอดจนความพร้อมที่จะผลักดันความร่วมมือระหว่างกันอย่างรอบด้านในทุกมิติในอนาคตเพื่อแก้ไขปัญหาที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจร่วมกัน
พ.ต.อ.ทวีกล่าวเน้นย้ำว่า ประเทศไทยมีความพยายามในการแก้ไขปัญหาสำคัญ ได้แก่ ปัญหาอาชญากรรม กระบวนการยุติธรรม และการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยตั้งเป้าหมายไว้ภายในประมาณ 1 ปี และไม่เกิน 3 ปี เพื่อให้ประชาชนชาวไทยมีความพึงพอใจ โดยเร่งแก้ไขความท้าทายเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งในประเทศและนอกประเทศ ซึ่งภูมิภาคเอเชียเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดสังเคราะห์ (Synthetic Drugs) โดยเฉพาะพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงปัญหาอาชญากรรมการฉ้อโกงออนไลน์ (Online Fraud)
ทางด้าน นางฆอดะฮ์ได้ชื่นชมประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาการปลูกฝิ่น และหวังว่าไทยจะสามารถช่วยเหลือเพื่อนบ้านด้วยการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดี โดยมองว่าปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ด้วย 3 ปัจจัย ได้แก่ 1 ) ความต่อเนื่องของข้อมูลทางสถิติและการสำรวจ 2 ) การวิเคราะห์ข้อมูลและการลงทุนในการพัฒนาทางเลือก (Alternative Development: AD) เพื่อลดการปลูกพืชเสพติด ซึ่งไทยจะสามารถช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านได้โดยการแบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดี และ 3) ความร่วมมือของภูมิภาคและความร่วมมือระหว่างประเทศในพื้นที่ สามเหลี่ยมทองคำ และในโอกาสครบรอบ 15 ปี ของ Bangkok Rules ในปี 68 เสนอให้ไทยเสนอข้อมติในการประชุม Crime Congress สมัยที่ 15 จะจัดในเดือนเม.ย.69 ณ นครอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์