สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ว่าจะเร่งแต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศ “ภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า รัฐบาลฝรั่งเศสชุดใหม่ “จะทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทุกคน” โดยมีภารกิจสำคัญคือ การเร่งผ่านกฎหมายงบประมาณฉบับใหม่

FRANCE 24 English


ขณะเดียวกัน มาครงประณามพันธมิตรพรรคการเมืองฝ่ายซ้ายในนาม “แนวร่วมประชานิยมใหม่” (เอ็นเอฟพี) และพรรคแนวร่วมแห่งชาติ (อาร์เอ็น) ซึ่งเป็นพรรคขวาจัด ของนางมารีน เลอ แปน และนายจอร์แดน บาร์เดลลา “ผนึกกำลังเฉพาะกิจ” เพื่อโค่นอำนาจรัฐบาล

ผู้ประท้วงถือแผ่นป้ายขับไล่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ระหว่างการชุมนุมที่เมืองมาร์แซย์


นอกจากนี้ ผู้นำฝรั่งเศสกล่าวถึงวาระการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของตัวเอง ว่าเป็นไปตาม “มติของประชาชน” ผ่านการเลือกตั้งเมื่อปี 2565 และเขาจะปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งใช้อำนาจตามวาระจนครบกำหนด คือปี 2570 แม้ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเริ่มปรากฏมากขึ้น ว่าชาวฝรั่งเศสต้องการให้มาครงลาออก เพื่อรับผิดชอบกับวิกฤติการเมืองภายในประเทศ


อย่างไรก็ตาม มาครง “ยอมรับ” เสียงประณามและเสียงวิจารณ์ การที่เขายุบสภาและจัดการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรก่อนกำหนด เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา และส่งผลให้ฝ่ายนิติบัญญัติเผชิญกับ “ภาวะสภาแขวน” ที่ไม่มีพรรคใดครองเสียงข้างมาก


ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศสมีมติท่วมท้น ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ไม่ไว้วางใจนายมิเชล บาร์นิเยร์ นายกรัฐมนตรี จากการใช้อำนาจผลักดันผ่านกฎหมายงบประมาณ โดยไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภา ซึ่งการที่บาร์นิเยร์ต้องพ้นจากตำแหน่ง เท่ากับว่า คณะรัฐมนตรีทั้งหมดต้องหมดวาระตามไปด้วย


นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2505 ที่นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสต้องพ้นจากตำแหน่ง จากการลงมติไม่ไว้วางใจของสภา และบาร์นิเยร์ วัย 73 ปี ซึ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ถือเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งอยู่ในตำแหน่งสั้นที่สุดของฝรั่งเศส นับตั้งแต่การสถาปนาสาธารณรัฐที่ 5 เมื่อปี 2501


ขณะที่บาร์นิเยร์ ซึ่งเคยทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนของสหภาพยุโรป (อียู) ในการเจรจาเบร็กซิตกับสหราชอาณาจักร ระหว่างปี 2559-2562 และถือเป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งรับตำแหน่งขณะมีอายุมากที่สุด ในประวัติศาสตร์การเมืองของฝรั่งเศส กล่าวว่า การลงมติไม่ไว้วางใจตัวเขา ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศได้.

เครดิตภาพ : AFP