สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ว่า การตัดสินใจดังกล่าว เป็นไปตามการคาดการณ์ในวงกว้าง แม้ความขัดแย้งที่ทำให้การประชุมล่าช้า ส่งผลให้เกิดความสงสัยว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน จะคงการปรับลดอุปทานหรือไม่
ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกโอเปกพลัส 8 ประเทศ ได้แก่ แอลจีเรีย, อิรัก, คาซัคสถาน, คูเวต, โอมาน, รัสเซีย, ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) จะขยายระยะเวลาปรับลดการผลิตน้ำมัน 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน “โดยสมัครใจ” ไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2568 หลังจากนั้น การปรับลดจะค่อย ๆ ยุติลงเป็นรายเดือน จนถึงสิ้นเดือน ก.ย. 2569 พร้อมกับเสริมว่า การดำเนินการดังกล่าว ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด
อนึ่ง ทั้งแปดประเทศเลื่อนการลดอุปทานน้ำมันมาแล้วถึง 2 ครั้ง จากเดิมที่มีกำหนดการเพิ่มการผลิตน้ำมัน ในเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา และเดือนนี้
อย่างไรก็ตาม การปรับลดอุปทานส่งผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อตลาด โดยคาดว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะดำเนินนโยบายต่าง ๆ เพื่อเพิ่มการผลิตน้ำมันของสหรัฐ ขณะที่แนวโน้มอุปสงค์ของจีนดูไม่ค่อยสดใส เนื่องจากประเทศเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจซบเซา
ด้านนายเดวิด ออกซลีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านสภาพอากาศและสินค้าโภคภัณฑ์ ของกลุ่มวิจัย “แคปิตอล อีคอนอมิกส์” กล่าวว่า การตัดสินใจของโอเปกพลัส ช่วยซื้อเวลาให้กับกลุ่มได้บ้าง ซึ่งคาดว่าประเทศสมาชิกเหล่านี้ จะกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมได้ภายในเวลา 3 เดือน.
เครดิตภาพ : AFP
