จากกรณีเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว” ได้โพสต์ข้อความว่า เรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้และยังไม่มีข่าวเพราะถูกสั่งให้ปิดเงียบ “…เด็กหญิงชั้น ป.4 ใน จ.บุรีรัมย์จำนวนหลายคนถูกครูชายในโรงเรียนพยายามลวนลามหลายครั้ง จนทางผู้ปกครองทราบเรื่องและรวมตัวไปแจ้งความที่ สภ.แห่งหนึ่ง แต่ถูกพนักงานสอบสวน เรียกทั้งสองฝ่ายให้มาไกล่เกลี่ยหาข้อยุติโดยการให้ครูชายจ่ายเงินได้จบเรื่องและทาง ผอ.รร.ก็ช่วยวิ่งเต้นคดีให้กับครูชายคนนี้เพื่อไม่ให้มีข่าวเสื่อมเสียของโรงเรียนออก…” ภายหลังข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่า เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะแง่มุมของการบังคับใช้กฎหมาย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ไก่ (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ชาว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เป็นแม่ของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ เด็กนักเรียนชั้น ป.4, นางนก (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ชาว อ.ประโคนชัย แม่ของ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ เด็กนักเรียนชั้น ป.4 และน.ส.อ้อย (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ชาว อ.ประโคนชัย แม่ของ ด.ญ.ซี (นามสมมุติ) อายุ 10 ขวบ เด็กนักเรียนชั้น ป.4 ว่า พวกตนได้เข้าพบ พงส.สภ.ประโคนชัย เพื่อแจ้งความเอาผิดกับ “ครูว่าน” อายุ 34 ปี ครูโรงเรียนพื้นที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์

โดยมีพฤติกรรมกล่าวคือ ใช้มือถอดกางเกงวอร์ม หรือ กางเกงพละของ ด.ญ.บี, ใช้มือเปิดกระโปรงนักเรียนของ ด.ญ.เอและด.ญ.ซี, ใช้มือจับหัวของ ด.ญ.เอ เข้ามาใกล้กับเป้ากางเกงของครูว่าน, ใช้ให้นักเรียนชายไปเอาหญ้ามาใส่ปาก ด.ญ.เอ, พยายามฉุด ด.ญ.ซี ที่นั่งอยู่หน้าห้องธุรการเข้าไปในห้อง แต่เด็กขัดขืนหนีออกมาได้ โดยหลังจากแจ้งความไปแล้วปรากฏว่า อีกฝ่ายต้องการไกล่เกลี่ยหาทางออก เนื่องจาก ครูว่าน เป็นลูกน้องของ ผอ.โรงเรียน

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสำราญ เสียงตรง ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดแจ้งว่า ตนทราบเรื่องเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา จึงเข้าไปสอบถามนักเรียน ก่อนที่ผู้ปกครองจะเข้ามาพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นในระดับหนึ่ง จากนั้นโรงเรียนได้แจ้งไปยังเขตพื้นที่การศึกษา แล้วแจ้งกับผู้ปกครองเด็กว่าโรงเรียนได้ดำเนินการไปในระดับหนึ่งแล้ว โดยสั่งย้าย “ครูว่าน” ออกจากพื้นที่โรงเรียนไปแล้ว สรุปคือเรื่องระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครองน่าจะจบแล้ว แต่ระหว่างโรงเรียนกับ “ครูว่าน” น่าจะยังไม่จบยังจะต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป

“..ที่จริงแล้ว ครูว่าน เป็นคนเรียบร้อยอยู่เงียบ ๆ ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ เป็นครูใจดี รักเด็ก และเด็กมักจะชอบหยอกล้อกัน กรณีที่ครูเปิดกระโปรงนักเรียนหรือกางเกงวอร์มนั้น น่าจะเป็นการหยอกล้อกัน เช่น ถ้าเด็กทำการบ้านผิดมา ก็จะให้เปิดกระโปรง ต่อมาผู้ปกครองเด็กได้ไปแจ้งความ ตำรวจได้เชิญตนไปให้ข้อมูล และแจ้งกับตำรวจไปว่า “ครูว่าน” เป็นครูที่ดีคนหนึ่ง กรณีที่ “ครูว่าน” เปิดกระโปรงจะไม่ได้ทำในที่ลับ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องเรียนซึ่งเป็นที่เปิดเผย ไม่มีการไกล่เกลี่ยแต่อย่างใด ยืนยันว่า เด็กกับครูน่าจะหยอกล้อกันสนุกเหมือนพี่น้องกัน แต่ก็เป็นเรื่องไม่สมควรอย่างยิ่ง…” นายสำราญ กล่าว.