นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และโฆษก ขบ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง มีมติอนุมัติให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำหนดเงื่อนไขเกี่ยวกับจำนวนผู้ประจำรถสำหรับการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร เพื่อให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และออกประกาศฯ เรื่องกำหนดและปรับปรุงเงื่อนไขในใบอนุญาตประกอบขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร ตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 เพื่อกำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่งไม่ประจำทางด้วยรถโดยสารต้องจัดให้มีผู้ประจำรถ ได้แก่ ผู้บริการ อย่างน้อย 1 คน สำหรับรถโดยสารไม่ประจำทางที่มีจำนวนที่นั่งตั้งแต่ 21 ที่นั่งขึ้นไป ในกรณีให้บริการรถโดยสารไม่ประจำทางสำหรับนักเรียนไปทัศนศึกษา หรือทำกิจกรรมอื่นนอกสถานศึกษาเป็นครั้งคราว ที่ไม่ใช่การรับส่งจากที่พักอาศัยไปยังสถานศึกษา

รวมถึงการให้บริการรถโดยสารไม่ประจำทางสำหรับผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในที่พักที่หน่วยงานจัดขึ้น เช่น ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์หรือสถานประกอบกิจการการดูแลผู้สูงอายุที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมอื่นนอกที่พักอาศัยดังกล่าวเป็นครั้งคราว ทั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. 67
นายเสกสม กล่าวต่อว่า การเดินทางด้วยรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถเช่าเหมา) ได้รับความนิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น สถานศึกษาต่างๆ ที่มีการพานักเรียนไปทัศนศึกษา หรือทำกิจกรรมอื่นนอกสถานศึกษาเป็นครั้งคราว รวมถึงหน่วยงานที่จัดกิจกรรมพาผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในที่พักออกนอกสถานที่ เนื่องจากรถโดยสารดังกล่าวมีขนาด และประเภทรถให้เลือกตามความเหมาะสมกับการเดินทาง

ขบ. ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับ ดูแล การขนส่งทางถนนให้มีความปลอดภัย เล็งเห็นว่าการเดินทางด้วยรถโดยสารไม่ประจำทาง เพื่อไปทัศนศึกษาหรือทำกิจกรรมนอกสถานศึกษาของนักเรียน และผู้สูงอายุที่เป็นหมู่คณะ มีความจำเป็นต้องจัดให้มีผู้ดูแล เพื่อให้การช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารกลุ่มดังกล่าวตลอดการเดินทาง รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ เพื่อความปลอดภัยภายในรถโดยสารก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถเผชิญเหตุได้เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และช่วยลดความสูญเสียด้วย.