สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ว่ากองกำลังอาระกัน (เอเอ) ซึ่งสู้รบอย่างหนักกับกองทัพเมียนมาในรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศ ตั้งแต่เดือน พ.ย. ปีที่แล้ว ซึ่งเท่ากับเป็นการสิ้นสุดการหยุดยิง ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกัน นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ออกแถลงการณ์ ว่าสามารถควบคุม “พื้นที่ทั้งหมด” ของภูมิภาคหม่องดอ ซึ่งมีพรมแดนติดกับบังกลาเทศ และมีประชากรราว 110,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮีนจา
แถลงการณ์ของเอเอระบุว่า ใช้เวลานานราว 2 เดือน จึงสามารถยึดพื้นที่ได้ทั้งหมด โดยสถานที่แห่งสุดท้ายซึ่งยึดได้ คือฐานทัพของทหารฝ่ายรัฐบาล และสามารถควบคุมตัวทหาร “จำนวนหนึ่ง” ไว้เป็นเชลย
#Myanmar ????????: the Arakan Army (#AA) has released footage from the moment it seized the last remaining junta base in the town of Maungdaw in northern #Rakhine.
— Thomas van Linge (@ThomasVLinge) December 10, 2024
Some junta soldiers were holding up literal chunks of styrofoam as white flags as they surrendered to the resistance. pic.twitter.com/ht1Lq13y5Z
อย่างไรก็ตาม ชาวโรฮีนจาจำนวนไม่น้อยประณามปฏิบัติการทางทหารของเอเอ ว่าเป็นสาเหตุสำคัญทำให้ชาวโรฮีนจาจำนวนมากต้องพลัดถิ่นฐาน ด้านเอเอโต้กลับว่า “เป็นโฆษณาชวนเชื่อของชาวโรฮีนจาเท่านั้น”
อีกด้านหนึ่ง โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีพี) รายงานเมื่อไม่นานมานี้ ว่าเศรษฐกิจของรัฐยะไข่ “กำลังเผชิญกับภาวะชะงักงัน” ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป ประชาชนในพื้นที่จะเผชิญกับภาวะอดอยาก ภายในช่วงกลางปี 2568.
เครดิตภาพ : AFP