จัดเป็นอีกหนึ่งนักร้องเพลงเพื่อชีวิตคนดังที่แฟนๆชื่นชอบหนักมาก น้าหมู-พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ที่ถือเป็นตำนานในหลายๆเรื่อง ล่าสุดน้าหมูเดินทางมาเป็นแขกรับเชิญในรายการ Club Friday Show พร้อมเปิดเผยเรื่องราวในชีวิตและความรักแบบทุกซอกทุกมุมในใจ และความรู้สึกแรกที่รู้ว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ถึงขั้นเล่นกีตาร์ไม่ได้จนถึงตอนนี้

น้าหมู เผยว่า “เรื่องไม่สบายคือเราเป็นมะเร็งครับ มีวันหนึ่งเล่นที่พระราม 2 เล่นอยู่กลางๆเพลงนะ ขอโทษนะอึราดเลย เราเลยไปส่องกล้องเจอมะเร็งเป็นระยะสุดท้ายแล้วที่จะเข้าไปต่อมน้ำเหลืองแล้ว เราก็ขายทุกอย่างเลย ขายรถ ขายบ้าน ขายม้า กีตาร์เกือบหมดตู้ขายหมดทุกอย่างเลย แต่ที่มันโหดร้ายคือแขนของเราหมดความรู้สึกเดี๋ยวนี้คือ เล่นกีตาร์ไม่ได้เลยได้แต่อุ้มไว้ ชีวิตผมมันน่าค่อนข้างจะอาภัพนะเหมือนโบราณที่บอกว่าถ้าเรามุ่งมั่นเป็นศิลปินมันจะต้องขายวิญญาณให้ซาตานนะ จะเจ็บจะปวดจะรวดร้าวยังไงต้องยอมเหมือนซาตานมาเอาวิญญาณเราไปเพื่อเป็นข้อแลกให้เราเป็นศิลปิน ผมเป็นคนที่ห่วงแหนความเป็นตัวเองจะไม่ให้ใครมาเปลี่ยนอะไรได้ คือแบบอยู่อย่างชาวบ้านแบบมานอนเตียงเดียวกัน มากินข้าวมื้อเย็นร่วมกัน ผมทำไม่ได้คือ ถ้ามีแฟนมีอะไรต้องอยู่กันคนละบ้าน หรือ คนละอำเภอไปเลย”

“ความรักผมเจอครั้งแรกในป่า ครั้งแรกที่เจอตอนอยู่ในป่านกเขาไฟ ผู้หญิงคนหนึ่งคือ คนชนชาติลัวะ คือ สวยมากหัวล้านไปครึ่งหัวเพราะเขาเอาหนังคาดหัวแล้วพันแล้วแบกของขึ้นเขา กล้ามน่องเขาเป็นมัดๆเลยสวยมาก เขาจับงูมือเปล่าได้เลย เห็นไม่ได้คือ วิ่งไล่จับเลย งูกลัวถูกกิน แล้วถ้าเรียกไม่ขานนะ เขาเรียกผมสหายแคน ถ้าเรียกแล้วไม่ขานโดนกินเลยนะ (หัวเราะ) และคือ เขาขอเราแต่งงานด้วย แต่ความรักที่อกหักที่หนักที่สุดแล้วก็สะเทือนที่สุดคือ เพลงน้ำตาหอยทาก คือ ผู้หญิงคนนี้เรารู้สึกว่าอยากจะแต่งงานด้วยเพราะชีวิตของผมไม่เคยพูดถึงเรื่องแต่งาน แต่คนนี้เราอยากแต่งด้วยเลยตัดสินที่จะแต่ง แต่ครอบครัวของเขาจะเป็นคนจีน แม่ของเขาก็เสนอว่าถ้าจะอยู่กับลูกเขาต้องเลิกร้องเพลงแล้วมาค้าขาย ตอนนั้นคือ เราอกหักเลยสภาพกินข้าวไปร้องไห้ไป”