เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 67 พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. สั่งการ พ.ต.อ.วันชนะ ทิพย์อาสน์ ผกก.8 บก.ทล. พ.ต.ท.ทัตพร เลขะวัฒนพงษ์ สวญ.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. พ.ต.ท.ชยธร ถวิลเพชรสกุล สว.ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล.นำกำลังจับกุม นายอนุพงษ์ อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 313/2567 ลงวันที่ 27 ก.ย. ข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นในการกระทำผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์, เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากของตนฯ”, นายอนุสรณ์ อายุ 24 ปี ตามหมายจับศาลแขวงขอนแก่น ที่ จ.68/2567 ลงวันที่ 1 มี.ค. ข้อหา “ยักยอกทรัพย์” และ นายจักรพันธ์ อายุ 20 ปี ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ699/2566 ลงวันที่ 12 ก.ค. ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ริมถนนเพชรเกษม ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้เบาะแสจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ว่า นายอนุพงษ์ กับนายอนุสรณ์ มีรสนิยมทางเพศแบบชายรักชาย ทั้งที่ทั้งสองบวชเป็นพระภิกษุอยู่วัดแห่งหนึ่ง โดยใช้กุฏิของวัดเป็นรังรักอยู่ด้วยกันอย่างไม่เหมาะสม จนชาวบ้านทนไม่ไหว แจ้งตำรวจทางหลวงให้ช่วยตรวจสอบ กระทั่งเจ้าหน้าที่พบพระคู่รักสองรายนี้มีหมายจับติดตัวจึงบุกจับกุม แต่ทั้งสองไหวตัวทันหลบหนีออกจากวัดไปหวุดหวิด ต่อมาแกะรอยพบทั้งสองกบดานอยู่ใน จ.ราชบุรี โดยไปทำงานรับจ้างตัดอ้อย จึงติดตามไปตะครุบตัวไว้ได้ ขณะกำลังขับรถออกมาจากไร่อ้อย และพยายามหลบหนีการจับกุมอีกครั้ง

สอบสวน นายอนุพงษ์ ให้การสารภาพว่า เป็นบุคคลตามหมายจับของทั้งสองศาล โดยหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นมีคำพิพากษาลับหลังจำคุก 1 ปี 6 เดือน ส่วนหมายจับศาลจังหวัดสงขลา เป็นคดีรับจ้างเปิดบัญชีม้า

ขณะที่ นายอนุสรณ์ สารภาพอ้างว่า เช่ารถจยย. ไปแล้วไม่ส่งคืนเจ้าของ เพราะไปเกิดอุบัติเหตุ ส่วน นายจักรพันธ์ มีหมายจับ 3 คดีให้การว่า นายอนุพงษ์ ชวนไปเปิดบัญชีม้าหลอกขายโทรศัพท์มือถือในเฟซบุ๊ก เบื้องต้นคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.