เมื่อพูดถึงการกินเนื้อสัตว์ ไก่ เป็ด ปลา หมู และเนื้อวัว ที่มักถูกนำมารับประทานบนโต๊ะอาหาร “เนื้อหมู” ถือเป็นเนื้อสัตว์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
หมูสามารถนำไปแปรรูปเป็นเมนูอร่อยๆ ได้มากมาย อาทิ ตุ๋น ย่าง ต้ม ทอด หากต้องการทำอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น การเลือกเนื้อหมูให้ถูกส่วนก็เป็นสิ่งสำคัญ พ่อครัวแม่ครัวมือใหม่หลายคนสับสนว่า จะเลือกซื้อเนื้อหมูส่วนไหนดี วันนี้เราได้นำคำแนะนำจากนักโภชนาการชาวจีน กู่ชวนหลิง มาบอกถึงวิธีเลือกและรับประทานเนื้อหมู
วิธีเลือกเนื้อหมูเวลาไปจ่ายตลาด ให้ได้หมูคุณภาพสูง
- ใช้นิ้วแตะที่เนื้อหมู เนื้อหมูที่สดใหม่จะมีฟิล์มน้ำมันอยู่บนผิว หากเป็นเนื้อหมูที่ถูกปล่อยทิ้งไว้นานแล้ว พื้นผิวจะรู้สึกเหนียว ๆ
- เนื้อหมูที่สดใหม่จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า เมื่อใช้นิ้วจิ้มลงไป จะต้องไม่เหนียวเหนอะหนะ ถ้าสะกิดแล้วเห็นรอยบุบ เหนียว อย่าซื้อเด็ดขาด
- เลือกเนื้อที่มีสีแดงสด และมีไขมันสีขาวเป็นมัน ถ้าสีเข้ม และไขมันไม่เงาจะไม่สด วิธีดูสีของเนื้อต้องมองด้วยแสงธรรมชาติ ร้านขายเนื้อหมูหลายแห่งจะเปิดไฟช่วย ทำให้เนื้อดูสว่างทุกชิ้น
- ดมกลิ่นให้แน่ใจว่า ไม่มีกลิ่นคาว เหม็นหืน หรือเปรี้ยว

เนื้อหมูส่วนไหนที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุด?
จริงๆ แล้วส่วนต่างๆ ของเนื้อหมู ก็ล้วนแล้วแต่มีสารอาหารที่แตกต่างกัน หากต้องการเน้นโภชนาการด้านไหน ให้เลือกเนื้อหมูส่วนที่เหมาะสมตามคำแนะนำต่อไปนี้
- ปริมาณไขมัน: ปริมาณไขมันในเนื้อสันใน เนื้อหน้าแข้งไม่ติดมัน เนื้อขาหลังไม่ติดมัน ไม่เกิน 6 กรัม/100 กรัม ในบรรดาเนื้อขาหลังไม่ติดมันมีไขมันต่ำที่สุดเพียง 3.4 กรัม/100 กรัม เท่านั้น เนื้อไหล่ เนื้อซี่โครง และแขนขามีไขมันเฉลี่ย 13-15 กรัม/100 กรัม หมูสามชั้นและคอหมูมีปริมาณไขมันค่อนข้างสูง มากกว่า 20 กรัม/100 กรัม
- ปริมาณโปรตีน: ปริมาณโปรตีนในเนื้อหน้าแข้งไม่ติดมัน เนื้อสันใน เนื้อขาหลังไม่ติดมัน และเนื้อขาหลังค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่มีน้ำหนักมากกว่า 20 กรัม/100 กรัม
- ปริมาณโพแทสเซียม: เนื้อขาหลังไม่ติดมันมีปริมาณโพแทสเซียมสูงที่สุดในบรรดาเนื้อหมูทั่วไป ถึง 406 มก./100 กรัม มีไขมันต่ำ มีโปรตีนสูง
- ปริมาณธาตุเหล็ก: ในบรรดาเนื้อหมูทั่วไป ปริมาณธาตุเหล็กในเนื้อซี่โครงไม่ติดมันและเนื้อส่วนหน้าค่อนข้างสูง คนที่ต้องการเสริมธาตุเหล็กและเลือด ควรกินเนื้อส่วนนี้
- ปริมาณสังกะสี: เนื้อขาหน้าไม่ติดมันมีปริมาณสังกะสีสูงสุดที่ 3.3 มก./100 กรัม
ส่วนต่างๆ ของเนื้อหมูมีวิธีการปรุงที่เหมาะสมที่สุดแตกต่างกันไป ถ้าปรุงได้อย่างเหมาะสม คุณก็จะได้เพลิดเพลินกับรสชาติที่อร่อย และเนื้อสัมผัสที่ยอดเยี่ยม
หากต้องการอาหารที่เน้นสุขภาพ เลือกเนื้อหมูส่วนที่มีปริมาณไขมันต่ำ เช่น เนื้อสันใน เนื้อหน้าแข้งไม่ติดมัน เนื้อส่วนหลังของหมู และเนื้อขาหลังไม่ติดมัน
นักโภชนาการชาวจีน กู่ชวนหลิง มักเลือกเนื้อสันในหรือเนื้อขาหลัง เมื่อจะนำเนื้อหมูไปทำอาหารประเภทผัด เนื้อทั้งสองส่วนนี้บาง มีเนื้อสัมผัสที่แน่น และดีต่อสุขภาพ
ครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ควรซื้อเนื้อสันในขนาดเล็ก นี่คือเนื้อหมูที่นุ่มที่สุด ใช้เนื้อไม่ติดมันหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วใส่ในโจ๊ก จะได้ทั้งโปรตีน เหล็ก สังกะสี และวิตามินบี 1
เนื้อขาหลังเป็นเนื้อหมูไม่ติดมัน มีปริมาณไขมันและแคลอรีต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับเนื้อสันใน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
หากต้องการนำเนื้อหมูไปย่าง เนื้อสันคอหรือคอหมู มีไขมันสูงกว่าเนื้อซี่โครงและต้นขา แต่ต่ำกว่าพุงหมู
ที่มาและภาพ: QQ, Eat This, Soha