เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 67 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รรท.ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กู้เกียรติ วงษ์พันธ์ ผกก.2 บก.สอท.5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.5 จับกุมตัวนายปภากร อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาบัญชีม้า ได้ที่อาคารศูนย์ราชการอาคารบี
สืบเนื่องจากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี จัดโครงการ ปันน้ำใจห่วงใย ผู้ป่วยติดเตียง ประชาชน และข้าราชการตำรวจผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ จ.สงขลา และ จ.ยะลา ก่อนมีผู้เสียหายในพื้นที่เข้ามาขอความช่วยเหลือ ถูกแก๊งคลอเซ็นเตอร์หลอกลวง โดยการโทรศัพท์ไปแจ้งว่า ค้างค่าชำระค่าภาษีอากร หากไม่ชำระจะต้องถูกดำเนินคดี และ มีชื่อเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทแห่งหนึ่ง ยังค้างชำระภาษี แต่ผู้เสียหายตอบกลับไปว่าไม่ได้เป็นหุ้นส่วนกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว คนร้ายจึงได้แนะนำให้ผู้เสียหายแจ้งความในระบบออนไลน์
จากนั้นได้โอนสายให้กับคนร้ายอีกคน ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอนแก่น หลังจากนั้นได้มีบุคคลอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอทราบ ชื่อ-นามสกุล เพื่อขอตรวจสอบ พร้อมแจ้งว่า ผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน แต่ผู้เสียหาย ได้ปฏิเสธ คนร้ายที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอแอดไลน์ ซึ่งไลน์ของคนร้ายขึ้นเป็นโลโก้ สภ.เมืองขอนแก่น โดยแจ้งว่าจะส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ผู้เสียหายตรวจสอบดู ก่อนแจ้งว่าจะต้องโอนเงินมาให้ทางเจ้าหน้าที่ ปปง. ตรวจสอบ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผู้เสียหายหลงเชื่อ และเพื่อจะแสดงความบริสุทธิ์ จึงได้จึงได้โอนเงินไปให้คนร้าย 29,000 บาท
หลังจากที่ผู้เสียหายได้โอนเงินไปแล้ว คนร้ายได้ส่งเอกสารตัวหนังสือเอกสารดังกล่าวระบุว่า ทาง ปปง. แจ้งว่า ผู้เสียหายได้ปกปิดข้อมูลว่าเรามีบัตรเครติด ทางคนร้ายได้สอบถามผู้เสียหาย ยังมีอะไรที่ปกปิดข้อมูลอีกหรือไม่ บัตรกดเงินสด บัตรเครดิตธนาคารใดบ้าง ผู้เสียหายจึงได้แจ้งว่ามีบัตรเครติดของธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งยังมีวงเงิน 200,000 กว่าบาท และยังไม่เคยกดออกมาใช้ คนร้ายได้แจ้งให้ผู้เสียหาย กดเงินสดจากบัตรเครดิต และโอนเงินทุกบัญชีที่มียอดเงินมาให้ตรวจสอบ จึงได้ถอนเงินจากบัญชีบัตรเครดิตโอนเงิน 232,000 บาท หลังจากนั้นได้มีคนร้ายเป็นหญิงได้แจ้งผู้เสียหายว่า ไม่ต้องกังวลที่โอนเงินมาให้ทาง ปปง. ตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบแล้วจะโอนเงินคืนให้ หลังจากนั้นคนร้ายก็ได้วางสายไป
ผู้เสียหายเห็นว่าไม่ผู้ติดต่อกลับมา จึงได้พยามติดต่อทางโทรศัพท์ และทางไลน์ สภ.เมืองขอนแก่น ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกลวง จึงได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ จ.สงขลา ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า บัญชีที่ผู้เสียหายได้โอนเงินไป ชื่อบัญชี นายปการ พักอาศัยตรอกวัดเชิงหวาย แขวง-เขตบางซื่อ กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปตรวจพบตัวนายปภากร จึงได้เชิญตัวมาสอบสวน
เบื้องต้นเจ้าหน้าตำรวจจึงแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดนหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.สอท.5 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.