นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ อยากเสนอรัฐบาลถึง 7 แนวทางฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยเร่งด่วน คือ 1.ภาครัฐที่ต้องอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอย่างรวดเร็ว ตรงเป้า และมีประสิทธิภาพเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ ส่งเสริมให้คนไทยเที่ยวไทย ใช้ของไทย ในช่วงปลายปีนี้ต่อเนื่องถึงไตรมาสหนึ่งของปีหน้า เพิ่มวงเงินโครงการคนละครึ่ง และยิ่งใช้ยิ่งได้ รวมทั้งนำโครงการช้อปดีมีคืนกลับมาใช้ โดยเพิ่มวงเงินเป็น 2 แสนบาท จากเดือน ธ.ค.64-ก.พ.65 2.ภาครัฐต้องมีนโยบายรักษาการจ้างงาน ลดภาระค่าใช้จ่ายด้วยมาตรการภาษี ทดลองใช้การจ้างงานแบบรายชั่วโมง

ขณะที่ 3.รัฐต้องจัดหาแหล่งเงินทุนอย่างเร่งด่วน เพื่อพยุงเอสเอ็มอีให้อยู่รอด 4.ต้องมีนโยบายในการลดกฎระเบียบ และพัฒนาระบบคลาวด์ เอไอ ดาต้าเซ็นเตอร์ 5.ปรับกฎหมายและระเบียบต่างๆ ที่จะช่วยให้การประกอบธุรกิจง่ายและสะดวกมากขึ้น 6.ห้ามละเลยระบบสาธารณสุข และ 7.รัฐต้องสนับสนุนการลงทุนของภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพราะจะทำให้เกิดการผลิตและการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การบริโภคของประชาชนขยายตัวได้อย่างทันที

“จนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ที่การแพร่ระบาดของโควิดส่งผลกระทบมหาศาลต่อเศรษฐกิจไทย และส่งผลให้มูลค่าค้าปลีกและบริการสูญหายกว่า 8 แสนล้านบาท มีคนว่างงานและผู้เสมือนว่างงาน และแรงงานนอกระบบ เพิ่มขึ้นประมาณ 3.2 ล้านคน หนี้ภาคธุรกิจและครัวเรือนเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เงินออมและเงินในกระเป๋าทุกภาคส่วนร่อยหรอลงไปทุกที เรากำลังเข้าสู่เฮือกสุดท้าย ดังนั้นการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องลงมือทำทันที”