วันนี้ (17 ธ.ค. 2567) สำนักข่าวไชนามอร์นิงโพสต์รายงานข่าวคุณพ่อชาวจีนรายหนึ่งเกือบเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจหยุดทำงานเฉียบพลันขณะช่วยลูกชายวัยรุ่นทำการบ้านและเกิดถกเถียงกันเกี่ยวกับความกดดันในการเรียน ซึ่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่นักเรียนและผู้ปกครองชาวจีนต้องเผชิญกันอยู่
คุณพ่อรายนี้ซึ่งระบุเพียงชื่อสกุลว่า นายจาง อายุ 40 ปี มีอาการหายใจลำบากและเจ็บหน้าอกอย่างกะทันหันขณะที่เขากำลังสอนพิเศษให้ลูกชาย ซึ่งเพิ่งจบจากโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นและกำลังเตรียมสอบเข้าโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของประเทศจีน
สำนักข่าวท้องถิ่นซิตีเอ็กซ์เพรสส์รายงานเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า จางถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โชคดีที่นายแพทย์จากโรงพยาบาลเซอร์รันรัน ชอว์ สังกัดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ได้ทำการผ่าตัดบายพาสหลอดเลือดแดงฉุกเฉินให้จางและช่วยชีวิตเขาไว้ได้สำเร็จ
อาการหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันอันเนื่องมาจากโรคหลอดเลือดหัวใจก่อนวัยอันควรเช่นนี้ มักมีระดับความรุนแรงมากขึ้นจากความเครียดทางอารมณ์
รายงานข่าวระบุว่า จางมักจะช่วยดูแลการบ้านของลูกชายและจัดช่วงเวลาทบทวนการเรียนเพิ่มเติมทุกเย็น ความสัมพันธ์ของพ่อลูกตึงเครียดเพราะลูกชายวัยรุ่นคนนี้รู้สึกกดดันจากแผนการเรียนที่พ่อของเขาวางไว้ให้
นอกจากนี้ จางยังส่งลูกชายไปเรียนในโรงเรียนกวดวิชาหลายแห่งและเป็นคนรับและส่งลูกด้วยตัวเอง เขาเป็นหนึ่งในบรรดาพ่อแม่ชาวจีนจำนวนมากที่มีปัญหาทางสุขภาพจนต้องเข้าโรงพยาบาล โดยมีสาเหตุมาจากความเครียดในการติวหนังสือให้ลูกๆ
ในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา คุณพ่ออีกคนหนึ่งในเจ้อเจียงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม ขณะเร่งเร้าให้ลูกชายชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ทำการบ้านให้เสร็จ
ก่อนหน้านั้น ในปี 2561 คุณแม่วัย 33 ปีในมณฑลเจียงซูเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก หลังจากโกรธลูกสาวเพราะใช้เวลานานเกินไปในการทำการบ้านให้เสร็จก่อนเวลาเข้านอน
เนื่องจากครูหลายคนมอบหมายให้พ่อแม่ดูแลรับผิดชอบการทำการบ้านของลูกๆ พ่อแม่ชาวจีนจึงมักมองว่าผลการเรียนของลูกๆ สะท้อนถึงความสำเร็จของตนเอง จึงผลักดันลูกๆ อย่างมากและมองว่าการสอบคัดเลือกทั่วประเทศเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยหรือการสอบ “เกาเข่า” เป็นเส้นทางเดียวที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในอนาคต
การสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีนทวีความเข้มข้นขึ้นทุกปี โดยมีนักเรียนมากกว่า 13 ล้านคนเข้าสอบทั่วประเทศในปีนี้
ที่มา : scmp.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
