ไล่ไทม์ไลน์เพียงปีเดียวเสียหายไปกว่า 20 ล้านบาท ยึดของกลางรถกระบะตู้ทึบ 20 คัน, รถจยย. 138 คัน ซึ่งส่วนใหญ่ที่ถูกแจ้งความคดีลักทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกงไว้
พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ รอง ผกก. ปรก.บก.ทล. หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ ชปจร.ก. เปิดโปงเส้นทางเครือข่ายนายทุนแก๊งลักรถส่งข้ามแดนกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” หลังสามารถจับกุมตรวจยึดรถยนต์กระบะตู้ทึบที่ใช้ขนรถ จยย.ข้ามแดนได้จำนวนมากว่า แบ่งเป็น 4 กลุ่มตามภูมิภาค ได้แก่ กลุ่มแรกรับรถ จยย.จากภาคกลางส่งไปชายแดนภาคตะวันออก, กลุ่ม 2 รับรถ จยย.จากภาคกลางส่งชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, กลุ่ม 3 รับรถ จยย.จากภาคกลางส่งไปชายแดนภาคตะวันตก และกลุ่ม 4 รับรถ จยย.จากภาคกลางส่งออกชายแดนภาคเหนือ
ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับ 3 เครือข่าย คือ 1.เครือข่ายนายอาณัติ หรือ เสี่ยกล้า นายทุนส่งออกรถ จยย.ที่เชื่อมโยงกลุ่มรถรับจ้างขนส่งรถจยย.ไปชายแดนภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อส่งต่อประเทศเพื่อนบ้าน เงินหมุนเวียนเกือบ 100 ล้านบาท 2.เครือข่าย น.ส.เนาวรัตน์ หรือ เจ๊น้อง หรือ เจ๊ก้อย และ นายอำพล หรือ เฮียทรัย์ หรือ น็อต นายทุนส่งออกรถ จยย. เชื่อมโยงกลุ่มรถรับจ้างขนส่งรถ จยย.ไปชายแดนภาคตะวันตก ภาคเหนือ และส่งต่อประเทศเพื่อนบ้าน มีการเปิดบริษัทขนส่งบังหน้า เงินหมุนเวียน 150 ล้านบาท
และ 3.เครือข่ายนายวิชัย นายยศลิศักดิ์ และนายวิฉัตร นายทุนส่งออกรถ จยย. เชื่อมโยงกลุ่มรถรับจ้างขนรถ จยย.ไปยังชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งต่อประเทศเพื่อนบ้าน เงินหมุนเวียนเกือบ 100 ล้านบาท นอกจากนี้ ออกหมายจับ 36 หมาย จับผู้ต้องหา 34 คน ซึ่งเป็นกลุ่มนายทุน, นายหน้า ผู้ขับขี่รถบรรทุกและผู้รับจัดเก็บรถ ข้อหาร่วมกันยักยอกฉ้อโกง และร่วมกันรับของโจรเพื่อค้ากำไร
ย้อนที่มาที่ไปการแกะรอยเริ่มต้นจากเดือน ต.ค. 66 มีประชาชนถูกมิจฉาชีพยักยอก ฉ้อโกง และโจรกรรมรถ เข้าร้องทุกข์จำนวนมาก ขณะที่กลุ่มสมาคมธุรกิจเช่าซื้อรถ จยย.ไทย หรือ ไฟแนนซ์ แจ้งพฤติกรรมถูกมิจฉาชีพหลอกดาวน์รถ นำไปขายต่างประเทศ จึงสืบสวนกระทั่งทราบการมีตัวตนของขบวนการ และจับกุมได้ปีเดียวกัน ก่อนขยายผลต่อเนื่องอีก 4-5 เคสทั่วประเทศ
การวิเคราะห์แผนประทุษกรรมต่อมาพบมีกลุ่มนายทุน แบ่งหน้าที่กันทำงานชัดเจน คล้าย “องค์กรอาชญากรรม” เพราะมีทั้งนายทุน, นายหน้า (นอมินี), กลุ่มขับรถกระบะตู้ทึบ รับจ้างลำเลียง, กลุ่มรับรถพื้นที่ปลายทาง ส่งต่อนายทุนต่างประเทศ, กลุ่มนายทุนต่างประเทศติดต่อนายทุนไทย ซื้อขายรถ จัดหาทุน รับออร์เดอร์ต่างประเทศ และสุดท้ายกลุ่มจัดหารถ เรียกว่า “ต้นทาง” เช่น การหลอกดาวน์รถ, ยักยอก และฉ้อโกง หรือโจรกรรมมา
การเลือกเหยื่อของกลุ่มมดงาน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มจัดหารถ และกลุ่มขน กลุ่มจัดหาจะติดต่อนายทุนโดยตรง เปิดเพจออนไลน์รับซื้อ-จำนำรถทุกประเภท ไม่สนว่าได้มาโดยวิธีการใด โดยจะรับตามออร์เดอร์นายทุนประเทศเพื่อนบ้าน คือ เมียนมา กัมพูชา และลาว ซึ่งปลายทางแต่ละประเทศ มีความต้องการแตกต่างกัน
“เมียนมา” ต้องการรถสภาพดีออกจากศูนย์ ไม่ผ่านการใช้งาน ไม่มีการจดทะเบียน และป้ายทะเบียน เช่น ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์, ฮอนด้า คลิก “กัมพูชา” เน้นรถสภาพดีเช่นกัน แต่ขนาดเล็ก รับทุกสภาพ เช่น ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ ส่วน “ลาว” นิยมฮอนด้า เวฟ มือสอง เป็นต้น
“ตัวนายทุน ถ้าเป็นรถป้ายแดง เช่น ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ประมาณคันละ 5-6 หมื่นบาท หากประกาศซื้อรถที่ผิดกฎหมายจะรับซื้อ 30 เปอร์เซ็นต์ของท้องตลาด เพื่อกดราคาลง ตัวมดงานผู้จัดหาโดยการโจรกรรมจะได้เงินจากส่วนนี้โดยตรง และผู้ขนจะได้รับค่าจ้างประมาณ 5 พันบาท และผู้รับรถปลายทางอาจได้อีก 5 พันบาท และนายทุนก็ไปบวกราคาเพิ่มเป็นเปอร์เซ็นต์ ล้วนได้ผลประโยชน์เป็นทอดไป”
สำหรับออร์เดอร์ส่วนใหญ่ พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ระบุ เป็น “ใบสั่ง” นายทุนประเทศเพื่อนบ้านจัดหาเงินให้นายทุนไทยไปหารถ ก่อนจัดสรรให้แต่ละกลุ่มจัดหา ว่าจ้าง ลำเลียง และรับปลายทาง อย่างไรก็ตาม พบเส้นทางเงินทุน-รายได้ไม่สอดคล้องกับการขาย เพราะนายทุนบางส่วนร่วมกระทำความผิดอื่น เช่น ว่าจ้างรถลำเลียงรถที่ถูกโจรกรรมไปปลายทางชายแดน แต่ขากลับลักลอบนำสิ่งของผิดกฎหมายจากแนวชายแดนเข้าเมืองชั้นในด้วย ยกตัวอย่าง นำพาต่างด้าว ยาเสพติด ของหนีภาษี อาวุธปืน และสิ่งของอื่น
พร้อมยอมรับหลังพบเครือข่ายใหญ่เมื่อปี 66 ทำให้กลุ่มเหล่านี้ไหวตัว แตกเครือข่ายไปทำเองแต่ก็รู้จักกันหมด การจับกุมแต่ละครั้งจึงแตกต่างจากเดิมที่มีนายทุนไม่กี่คน ใช้รถลำเลียงคันเดียวกัน
พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ทิ้งท้ายข้อแนะนำการจอดรถให้ปลอดภัยจากการโจรกรรม ควรจอดในที่ปลอดภัย ล็อกรถให้เรียบร้อย อย่าจอดในจุดเสี่ยง-อันตราย อย่างพื้นที่เปลี่ยว โดยเฉพาะสเปกรถที่ได้รับความนิยม ส่วนประชาชนที่หลงเชื่อสื่อออนไลน์รับจำนำรถ มิจฉาชีพที่หลอกนำรถไป การเปลี่ยนมือ การซื้อขายรถต้องผ่านขั้นตอนทางทะเบียนโดยกรมการขนส่งทางบก และขนส่งจังหวัดจึงจะถูกต้อง
หากถูกมิจฉาชีพหลอกให้ติดต่อไฟแนนซ์ เพื่อขอสินเชื่อ และดาวน์รถออกมาขายให้นายทุน ถือว่าเสี่ยงตกเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา ดังนั้น ขอให้ดาวน์มาใช้ในชีวิตประจำวันจริง ๆ เท่านั้น อย่านำไปขายให้กลุ่มนายทุน.
ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน