กรณีคุณยายชาวนครราชสีมา 2 ราย อายุ 78 ปี และอายุ 68 ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็ก และสตรี ซึ่งหญิงชรารายแรกถูกคนร้ายล่วงละเมิดทางเพศ วันที่ 8 ส.ค. 2567 ส่วนรายที่สอง ถูกคนร้ายล่วงละเมิดวันที่ 14 ธ.ค. 2567 โดยทั้งสองคดี คนร้ายสวมได้สวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า บังคับล่วงละเมิดคุณยายกลางทุ่งนากลางวันแสกๆ หลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความไว้แล้ว คาดว่าเป็นคนเดียวกัน และตำรวจยังจับกุมคนร้ายไม่ได้ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

โจรปล้นสวาท! 2 ยายวัย 68-78 ร้อง ‘ปวีณา’ ช่วยล่าไอ้โม่งบุกข่มขืนกลางวันแสกๆ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหญิงชราอีกราย พื้นที่ใกล้เคียง ถูกคนร้ายจี้ข่มขืนเหมือนกัน กลางไร่มันสำปะหลัง ในพื้นที่บ้านหนองโคบาล หมู่ 6 ต.บึงพะไล อ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบนางสมใจ อายุ 60 ปี เบื้องต้นเปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2567 ขณะกำลังออกไปตัดหญ้าในไร่มันสำปะหลัง ซึ่งขณะกำลังถางหญ้าอยู่นั้น มีชายคนร้ายเดินเข้ามาทางด้านหลังกอดล็อกตัวตนไว้ จึงได้สะบัดขัดขืนแต่ไม่หลุด

นางสมใจ เผยอีกว่า ตอนแรกคิดว่าเป็นลูกชายตนเอง จึงเรียกชื่อลูกชายออกไปหลายครั้ง แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบ จากนั้นคนร้ายได้กดหัวตนลงไปในร่องมันสำปะหลัง พร้อมกับถามหาเงิน จึงบอกว่าเงินอยู่ที่รถจักรยานยนต์ แต่คนร้ายก็ไม่สนใจ ลงมือถลกกางเกงของตนออก แล้วใช้เสื้อกางเกงมัดแขนกับเท้าตนไว้ ก่อนลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จึงอาศัยจังหวะคนร้ายเผลอลุกขึ้นวิ่งหนีออกมาขอความช่วยเหลือชาวบ้าน ทั้งๆ ที่มือ และเท้าของยังถูกมัดอยู่ ซึ่งรู้สึกหวาดผวาตกใจมาก และยังจำภาพเหตุการณ์ได้ติดตา หลังเกิดเหตุก็ได้ไปแจ้งความไว้แล้ว แต่คดีก็ไม่คืบ จึงอยากฝากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ทั้งนี้คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนเดียวกันกับที่เป็นข่าว

พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา เปิดเผยว่า พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ. 3 ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และชุดสืบสวน สภ.บัวใหญ่ เร่งสืบสวนดำเนินการหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ เนื่องจากคดีดังกล่าว มีผลกระทบสร้างความหวาดกลัวให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ชุดสืบสวนสามารถเก็บดีเอ็นเอของคนร้ายที่ก่อเหตุไว้แล้ว ขณะนี้ได้นำผลดีเอ็นเอไปตรวจสอบ และแบ่งกลุ่มผู้ต้องสงสัยไว้ โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนที่มีประวัติเคยก่อคดีทางเพศ และคดีอาชญากรรมต่างๆ นำไปเปรียบเทียบดีเอ็นเอ เพื่อหาตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว ส่วนคนร้ายจะเป็นคนในพื้นที่หรือไม่นั้น จากข้อมูลขณะนี้เป็นไปได้ทั้งหมดว่าคนร้ายอาจเป็นคนในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ก็ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังทำงานสักระยะก่อน