เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.จีระวัฒน์ พยุงธรรม รองผบช.สอท. พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชูศักดิ์ ขนาดนิด รอง ผบช.สอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ แถลงข่าวตั้งแคมเปญ “ปีใหม่ ไร้มิจ (ฉาชีพ) ชวนติดตั้ง Cyber Check สืบค้นจนไม่เอ๊ะ! หากเจอปุ๊บ รีบแจ้งความปั๊บ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี เป็นช่วงที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อไปหาครอบครัว ญาติ พี่น้อง เพื่อสอบถามสารทุกข์สุขดิบกันและพบปะสังสรรค์ แต่อาจไม่รู้เลยได้เลยว่า ได้พามิจฉาชีพกลับบ้านหรือไม่ หรืออาจมีญาติพี่น้องของที่บ้านกำลังคบหากับมิจฉาชีพออนไลน์อยู่ เพราะปัจจุบัน อาจมีมิจฉาชีพบนโลกออนไลน์แฝงตัวอยู่ในโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ของเราตลอดเวลาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตำรวจไซเบอร์ จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันตรวจสอบตนเองและคนในครอบครัวว่ากำลังสื่อสาร เข้าร่วมแพลตฟอร์ม โอนเงิน หรือกำลังจะโอนเงินให้มิจฉาชีพเหล่านี้อยู่หรือไม่ ด้วยกลอุบายต่าง ๆ ที่มิจฉาชีพได้สรรหาวิธีมาหลอกลวง เช่น หลอกขายของออนไลน์ หลอกลงทุน หลอกให้ทำงานออนไลน์โดยอ้างว่ารายได้ดี หลอกให้กู้เงิน เป็นต้น ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่กว่าจะรู้ตัว ก็โอนเงินจนหมดเนื้อหมดตัว หรือหยิบยืมเงินใครไม่ได้แล้ว

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ดังนั้น จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนกลับบ้านในช่วงปีใหม่ 2568 ไปช่วยรณรงค์คนในครอบครัวให้ระมัดระวังภัยมิจฉาชีพออนไลน์ รวมทั้งดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น Cyber Check ซึ่งแอพดังกล่าวจะช่วยตรวจสอบว่า บุคคลที่คุยด้วยนั้นเป็นมิจฉาชีพหรือไม่ โดยจะตรวจสอบทั้งทางเบอร์โทรศัพท์ Facebook / Line / เว็บไซต์ / ไปจนถึงการตรวจสอบเลขบัญชีที่กำลังจะโอนเงินว่าเป็นบัญชีม้าหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเป็นมิจฉาชีพ จะได้รู้เท่าทันและนำไปแจ้งความกับสถานีตำรวจท้องที่ หรือระบบเว็บไซต์แจ้งความออนไลน์ thaipoliceonline.go.th หรือสายด่วน 1441 โดยแอพพลิเคชั่น Cyber Check นั้น มีฐานข้อมูลของมิจฉาชีพที่ได้รับการแจ้งความจากผู้เสียหายในระบบแจ้งความออนไลน์ ตั้งแต่เลขบัญชีคนร้ายกว่า 2.4 แสนบัญชี เว็บไซต์ของมิจฉาชีพหรือต้องสงสัยจำนวนกว่า 3,000 URLs รวมทั้งลิงค์เพจ LINE และ SMS ปลอมมากถึง 38,000 Link โดยขณะนี้มียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าวมากถึง 83,000 เครื่อง สามารถแจ้งเตือนไปแล้วกว่า 21,000 บาทครั้ง
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จึงเน้นย้ำกับประชาชนโดยเฉพาะช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า ฝากให้บรรดาเครือญาติครอบครัวหรือคนใกล้ชิดโหลดเพจดังกล่าว เพื่อช่วยกันเตือนภัยไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางออนไลน์ โดยต้องโหลดผ่าน App Store หรือ Google Play เท่านั้น อย่าหลงเชื่อและกดลิงก์โหลดแอปพลิเคชันเด็ดขาด รวมทั้งต้องหมั่นอัพเดทแอปพลิเคชันบ่อย ๆ เนื่องจากทางตำรวจจะคอยอัปเดตฐานข้อมูลของมิจฉาชีพใหม่ ๆ ตลอดเวลา นอกจากนี้ ทางเจ้าที่ตำรวจไซเบอร์รณรงค์ให้ประชาชนทุกคนร่วมกันกดโกรธให้กับเพจปลอมหรือเพจมิจฉาชีพต่าง ๆ ใน Facebook โดยให้ประชาชนสังเกตว่า หากพบเพจ Facebook ที่ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหลอกให้แจ้งความติดตามเงินคืนหรือหลอกเป็นภาคธุรกิจ เพื่อชักชวนลงทุนหรือซื้อขายสินค้าและบริการ ให้ช่วยกันกดโกรธ เพื่อเป็นการ Take Action เบื้องต้นกับบรรดาเพจปลอมเหล่านี้ ให้ประชาชนผู้ใช้บริการ Facebook รายอื่นได้รับทราบและรู้ว่านี่คือเพจปลอม อย่าได้หลงเชื่อเด็ดขาด

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ซึ่งที่ผ่านมานั้น ทางตำรวจไซเบอร์ได้จัดสายตรวจออนไลน์ตรวจสอบเพจปลอมและประสานงานกับทาง Facebook ดำเนินการปิดเพจปลอม ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงปัจจุบันมาถึง 32,400 URLs หรือคิดเป็น 87% ของยอดที่ขอปิดเพจทั้งหมด จึงอาจจะยังมีเพจหลอกลวงประชาชนที่ยังไม่ถูกปิดหลงเหลือ เนื่องจากอยู่ในระหว่างกระบวนการปิดของ Facebook ที่ต้องใช้เวลา การที่ประชาชนช่วยกันกดโกรธนั้น จะเป็นการทำให้ประชาชนได้เห็นเบื้องต้นว่า เพจดังกล่าวผิดปกติและเป็นเพจปลอม เพื่อที่จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อ ซึ่งการกดโกรธนั้น แอดมินเพจจะไม่สามารถลบจำนวนยอดดังกล่าวได้ จึงจะเป็นการช่วยเตือนภัยประชาชนในเบื้องต้นได้อย่างดีระหว่างที่รอเพจดังเหล่านั้นถูกปิด
พล.ต.ต.ชูศักดิ์ กล่าวว่า ให้ข้อแนะนำสำหรับพี่น้องประชาชนในการตรวจสอบเหตุปลอมเบื้องต้นว่า ส่วนใหญ่แล้วเพจปลอมจะถูกขึ้นต้นว่าได้รับการสนับสนุนหรือมีสปอนเซอร์ เพราะเนื่องจากเพจเหล่านั้น จะจ่ายเงินให้ Facebook หรือยิงแอดโฆษณา เพื่อให้ผู้ใช้บริการเห็นเป็นเพจแรก ๆ // อีกทั้งให้สังเกตอีกว่า หากเพจไหนมียอดกดโกรธที่โพสต์เยอะ ๆ และปิดกั้นไม่ให้แสดงความคิดเห็น แต่บังคับให้กดเพื่อส่งข้อความหาแอดมินโดยตรง รวมทั้งอายุของเพจปลอมที่สังเกตว่าจะเพิ่งเปิดมาไม่ถึงเดือนและยังซ่อนผู้จัดการเพจไม่ให้เห็นหรือแสดงว่าผู้จัดการเพจอยู่นอกประเทศไทย ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า นี่คือเพจปลอมที่อาจจะมาหลอกลวงประชาชนได้