จากกรณีการเสียชีวิตของ “แบงค์ เลสเตอร์” นายธนาคาร คันธี อายุ 27 ปี อินฟลูเอนเซอร์สู้ชีวิต หาเงินเลี้ยงคุณยาย ซึ่งคาดสาเหตุเกิดจากการดื่มสุราในปริมาณมาก ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้ว
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 ธ.ค. ที่ ทัณฑสถานหญิงกลาง แขวงลาดยาว เขตจตุจักร นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ภายหลังจากวานนี้ (28 ธ.ค.) กรมราชทัณฑ์ โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดจันทบุรี ได้รับตัวนายเอ็ม เอกชาติ ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของนายธนาคาร คันธี อายุ 27 ปี หรือ “แบงค์ เลสเตอร์” อินฟลูเอนเซอร์สู้ชีวิต ตนได้รับทราบรายงานว่ามีการตรวจร่างกาย ตรวจประวัติอาชญากรรม ซึ่งนายเอ็มสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด รวมทั้งนายเอ็ม ยังได้ดื่มนมแลคตาซอย 1 กล่อง
ส่วนตอนนี้นายเอ็มได้เข้าสู่กระบวนการกักโรคโควิด-19 จำนวน 5 วัน และเป็นการกักโรคคนเดียว ไม่ได้คุยกับใคร มีสีหน้าปกติ ไม่ได้แสดงอาการวิตกกังวล โดยวานนี้เรือนจำเพิ่งได้รับตัวนายเอ็มเพียงรายเดียว จึงทำให้กักโรคคนเดียว และถ้าหากจะมีการจำแนกแยกลักษณะผู้ต้องขังให้ไปคุมขังระหว่างพิจารณาคดีที่แดนใด เมื่อครบกักโรคนั้น คาดว่าอาจอยู่แดนระหว่างพิจารณาคดี หรือแดน 4 แต่ก็ขึ้นอยู่กับทางเรือนจำจังหวัดจันทบุรี

นางกนกวรรณ เผยต่อว่า ส่วนเมนูอาหารทั้งสามมื้อในวันนี้ ประกอบด้วย มื้อเช้า เมนูต้มจืดไก่ผักกาดดองเค็ม มื้อกลางวัน ข้าวต้มหมู และมื้อเย็น ปลาทอดน้ำพริกกะปิ ซึ่งทราบว่านายเอ็ม รับประทานอาหารเช้าได้ปกติ นอกจากนี้ นายเอ็ม ยังได้สอบถามเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ถึงเรื่องการเยี่ยมญาติ ซึ่งเรือนจำฯ ก็ได้อธิบายให้ฟังว่าระหว่างกักโรค 5 วัน มีสิทธิที่จะพบทนายความตลอด แต่เป็นการพบกันผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ก่อน ส่วนหลังจากกักตัวครบ 5 วันแล้ว หากไม่มีโรคประจำตัว หรือโรคใดๆ ทนายความก็มาเยี่ยมแบบออนไซต์ได้ รวมถึงการเยี่ยมญาติด้วย ทั้งนี้ นายเอ็มยังไม่ได้มีการร้องขอสิ่งใดเป็นพิเศษ
เมื่อถามว่ามีข้อกังวลว่านายเอ็มจะโดนจองกฐินหรือไม่ เพราะว่ากระแสสังคมแรง นางกนกวรรณ กล่าวว่า เรือนจำฯ มีมาตรการในการดูแล ตอนนี้ระหว่างที่นายเอ็มกักโรคโควิด-19 เราได้มอบหมายให้มีอาสาสมัครเรือนจำ 3 ราย คอยดูแลอยู่ และในห้องก็มี CCTV ดูตลอดเวลา
เมื่อถามย้ำว่ามีความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องแยกตัวนายเอ็มออกมาจากคนอื่นหรือไม่ เพราะอาจจะพลาดพลั้งได้ นางกนกวรรณ กล่าวว่า เรื่องแบบนี้ต้องมีข้อมูลมาก่อนจึงจะพิจารณากันอีกที
เมื่อถามว่ามีมาตรการอย่างไรกับผู้มีอิทธิพลในแดนที่สามารถใช้บารมีอำนาจได้ นางกนกวรรณ กล่าวว่า เรามีมาตรการเหมือนกันทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวัง มีสายข่าวในการรวบรวมข้อมูล ถ้าเป็นคู่คดีก็จะพยายามแยกกัน ไม่ว่าจะถูกส่งไปไหน ก็จะพยายามให้ไม่มีคู่กรณีหรือโจทก์ต้องอยู่รวมกัน.