ผ่านมาครึ่งทางสำหรับฤดูกาล 2024-25 แต่ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ยังดูเหมือนหาแสงสว่างในอุโมงค์ไม่เจอ
หลังแพ้ คริสตัล พาเลซ 2-1 แม้ว่าออกนำก่อน ทำให้พวกเขาเพิ่งมี 6 แต้มจาก 19 นัด
แม้แต่ ดาร์บี เคาน์ตี ในฤดูกาล 2007-08 ซึ่งเป็นทีมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ก็ยังมีแต้มมากกว่าในช่วงเวลาเดียวกัน
เกิดอะไรขึ้น?
ภายใต้การนำของ รัสเซลล์ มาร์ติน เจ้าตัวปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแนวทางการเล่น แต่ยังยึดหลักเน้นการครองบอล เซตบอลจากแนวรับ โดยอาจลืมไปถึงคุณภาพผู้เล่นที่มี
สุดท้ายจึงถูกไล่ออกเมื่อต้นเดือนนี้ โดยชนะได้เพียงนัดเดียว
ถึงตอนนี้ “เดอะ เซนต์ส” เสียไปแล้ว 39 ประตู โดยมีเพียงวูล์ฟส์และเลสเตอร์ที่เสียมากกว่า และความผิดพลาดที่นำไปสู่การเสียประตู 11 ครั้ง ถือเป็นสถิติมากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป
ขณะที่เกมรุกก็มีปัญหา แม้รั้งอันดับที่ 16 จากการสร้างโอกาสสำคัญ (37 ครั้ง) แต่เซาแธมป์ตันยิงได้ต่ำที่สุดในลีก 12 ประตู
คนละ 2 ประตู คาเมรอน อาร์เชอร์, โจ อาริโบ, ไทเลอร์ ดิบลิง และอดัม อาร์มสตรอง คือดาวซัลโวสูงสุดของสโมสร
ย้อนไปยังฤดูกาล 2007-08 ดาร์บี ทำสถิติจบฤดูกาลด้วยคะแนนต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมาในลีก (11 แต้ม) และผลต่างประตูได้เสีย -69 พวกเขาชนะเพียงเกมเดียว

ถึงอย่างนั้นหลังผ่านไป 19 เกมเท่ากับตอนนี้ ดาร์บียังมี 7 แต้ม ซึ่งมากกว่าเซาแธมป์ตันอยู่ 1 แต้ม
มันก็เลยมีโอกาสที่เซาแธมป์ตันอาจกลายเป็นทีมที่มีผลงานแย่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
กระนั้นในฤดูกาล 2020-21 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เคยผ่านครึ่งทางแย่กว่านี้ เมื่อมีเพียง 5 แต้ม แต่สุดท้ายก็ยังจบฤดูกาลด้วย 23 แต้ม
เรียกว่าถึงตกชั้นก็ยังตกแบบมีศักดิ์ศรี
แล้วจะมีโอกาสรอดหรือไม่?
122 ปีที่ผ่านมา มีเพียง 5 ทีมเท่านั้นที่มี 6 แต้มหรือน้อยกว่าในช่วงเดียวกันนี้ และทั้ง 5 ทีมล้วนตกชั้น
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Opta ทำนายว่าเซาแธมป์ตันมีโอกาสรอดตกชั้นเพียง 0.7%