เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ธนัญญา หรือ “นะ” (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี พนักงานในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งว่า ตนถูกชายคนหนึ่งซึ่งไม่เคยรู้จักหรือมีเรื่องบาดหมางมาก่อน เข้ามาทำร้ายรัวหมัดทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บตามร่างกายหลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณใต้คางซ้ายถูกหมัดต่อยจนเขียวช้ำ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 27 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา โดยตนขึ้นรถเมล์สาย 166 กลับที่พักคอนโดเมืองทองธานี ระหว่างอยู่บนรถได้ไอ หรือ กระแอม ไป 1 ครั้ง ระหว่างนั้นพบว่ามีชายใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงสแล็ค สีดำ อายุประมาณ 40 ปี หันมามองตนเองด้วยตาขวาง ก่อนจะลุกไปนั่งเบาะด้านหลังในเวลาต่อมา กระทั่งตนลงรถเมล์ที่หน้าห้างสรรพสินค้า Outlet ชายคนดังกล่าวก็ลงรถเดินตามมาก่อนจะโวยวายตะโกนด่าทอ ท้าตนชกต่อย ตนจึงบอกไปว่า “…ถ้าจะทำร้ายผู้หญิงก็มาดิ..” เท่านั้นเอง ชายคนดังกล่าวก็ตรงเข้ามารัวหมัดใส่แบบไม่ยั้ง โดยเฉพาะหมัดที่ต่อยเข้าคางซ้ายของตนอย่างแรง จนมีรปภ.และคนเดินผ่านไปมาเข้ามาห้ามปราม

ตอนนั้นตนบอกให้รปภ.ช่วยคุมตัวคนก่อเหตุเอาไว้ แต่รปภ.บอกว่าไม่มีอำนาจในการคุมตัวเขา ทำให้ตนเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก ว่าทำไมรปภ.ถึงปล่อยอีกฝ่ายไปหน้าตาเฉยแบบนั้น หลังเกิดเหตุตนเข้าแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ก่อนส่งตัวไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจบาดแผลตามร่างกาย โดยตนรู้สึกเจ็บมากที่บริเวณกรามด้านซ้าย และยังพบว่าคางซ้ายเขียวช้ำจนเป็นวงกว้าง ตามร่างกายรู้สึกระบมและเจ็บปวดไปหมดทั่ว แต่ก็ไม่มีกระดูกส่วนใดหัก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนบอกกับตนว่าอยู่ระหว่างไล่กล้องวงจรปิดหาชายคนที่ทำร้ายตนเอง

ต่อมาผู้สื่อข่าวพร้อมผู้เสียหาย ได้เดินทางไปจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าห้าง Outlet พบว่า ในช่วงเย็นจะมีพ่อค้าแม่ค้าตั้งร้านขายของแบกะดินเป็นจำนวนมาก สอบถามจากทาง ผู้ที่มาค้าขายหลายคน บอกว่า จุดนี้ไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดมีเพียงกล้องของทางห้างสรรพสินค้าเท่านั้น หากจะดูภาพจากกล้องวงจรปิด ต้องขออนุญาตจากทางห้างอย่างเดียว ซึ่งทาง น.ส.ธนัญญา ผู้เสียหายเองก็ได้วิ่งหาข้อมูลจนไปพบว่ามีภาพวงจรปิดจับภาพชายคนร้าย ขณะซ้อนท้ายจยย.หลบหนีไปลงหน้าตึก T4 ทำให้ได้เบาะแสคนร้ายเพียงเท่านี้ จึงอยากให้ตำรวจชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัวชายคนร้าย มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เนื่องจากเกรงว่าจะไปทำร้ายผู้หญิงรายอื่น ๆ อีก.

