เมื่อวันที่ 30 ต.ค. นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า เมื่อที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้จับกุมตัวผู้ต้องหาหญิงชาวไทย จำนวน 1 ราย ตามหมายจับของศาลอาญา ได้ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยผู้ต้องหารายนี้มีพฤติการณ์ผู้ชักชวนผู้เสียหายให้เดินทางไปทำงานนวดที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อ้างว่าจะได้รับรายได้ดี เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อได้เดินทางไปยังนครดูไบ กลับถูกบังคับให้ทำงานค้าประเวณี และถูกเจ้าของร้านยึดหนังสือเดินทาง อีกทั้งยังต้องตกอยู่ในสภาพมีหนี้สินที่แอบแฝงมาในรูปแบบต่างๆ ซึ่งก่อนที่จะเดินทางผู้เสียหายไม่เคยทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวมาก่อน หากผู้เสียหายไม่ยอมทำงานค้าประเวณีก็จะไม่มีเงินดำรงชีพ และไม่สามารถหลบหนีได้เนื่องจากถูกยึดหนังสือเดินทาง โดยการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใดหน่วงเหนี่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งบุคคลใดโดยข่มขู่ ใช้กำลังบังคับ ลักพาตัว ฉ้อฉล หลอกลวง ใช้อำนาจโดยมิชอบ ฯลฯ

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก ดีเอสไอได้รับการประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ประจำสถานกงสุลใหญ่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่ามีหญิงไทยถูกหลอกลวงไปบังคับค้าประเวณี โดยมีการหน่วงเหนี่ยว กักขัง ยึดหนังสือเดินทาง ทำให้ผู้เสียหายไม่สามารถหลบหนีออกจากร้านได้ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่กรมตำรวจนครดูไบเข้าตรวจค้นจับกุม ผู้เสียหายจึงแสดงตนขอความช่วยเหลือให้ได้เดินทางกลับประเทศไทย ตนจึงได้สั่งการให้กองคดีการค้ามนุษย์ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนในคดีพิเศษที่ 8/2564 โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานจนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง และจับกุมผู้ต้องหาได้ โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ จะดำเนินการขยายผล ถึงขบวนการซึ่งเป็นบุคคลชาวต่างชาติและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ขอแจ้งเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อบุคคลซึ่งเป็นนายหน้าอ้างว่ามีงานนวดในต่างประเทศมีรายได้ดี อยู่กินสุขสบาย ไม่มีการบังคับขายบริการทางเพศ อาทิ สาธารณรัฐเกาหลี ประเทศมาเลเซีย หรือประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ราชอาณาจักรบาห์เรน เป็นต้น และหากประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ สามารถแจ้งมายังดีเอสไอหรือทางสายด่วน 1202 (โทรฯ ฟรีทั่วประเทศ) โดยดีเอสไอจะเก็บรักษาข้อมูลผู้แจ้งเบาะแสไว้เป็นความลับ.