Generation Beta เข้าใจข้อเสียของเทคโนโลยี
Generation Beta มีแนวโน้มที่จะรับช่วงต่อโลกที่มีความหลากหลายและเชื่อมโยงถึงกันมากกว่าเดิม อันเป็นผลมาจากความพยายามของเจนซีและมิลลิเนียลในการทำลายอคติเก่า ๆ และส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการยอมรับ ทำให้ Generation Beta เติบโตมาในสังคมที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ เพศวิถี การดำเนินชีวิต ความแตกต่างจะไม่เพียงเป็นที่ยอมรับเท่านั้น แต่ยังได้รับการยกย่องอีกด้วย
Generation Beta จะเติบโตภายใต้คำแนะนำของผู้ปกครองที่เชี่ยวชาญด้านดิจิทัลจากกลุ่ม Generation Z ซึ่งต่างจากกลุ่มรุ่นก่อน ๆ ซึ่งเข้าใจถึงข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นของเทคโนโลยี ผู้ปกครองจำนวนมากให้ความสำคัญกับการจำกัดเวลาอยู่หน้าจอ ซึ่งส่งสัญญาณถึงแนวทางการใช้เทคโนโลยีที่ระมัดระวังมากขึ้นสำหรับบุตรหลานของตน

การเปลี่ยนแปลงทางการศึกษา
ระบบการศึกษาของ Generation Beta จะเกิดขึ้นจากประสบการณ์การเรียนรู้ส่วนบุคคลจะกำหนดเส้นทางการศึกษาของพวกเขาเอง หลักสูตรการเกิดขึ้นของกรอบการเรียนรู้แบบปรับเปลี่ยนได้ ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะช่วยให้เกิดหลักสูตรที่เหมาะสมกับความถนัด และช่วงเวลาที่เหมาะของแต่ละบุคคล และการเปลี่ยนแปลงไปสู่การศึกษาแบบรายบุคคลนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับ Generation Beta ทำให้พวกเขามีทักษะที่จำเป็นต่อการเติบโตในตลาดงานที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

ภูมิอากาศสิ่งที่ต้องเผชิญ
อย่างไรก็ตาม Generation Beta จะต้องพบเจอและต่อสู้กับปัญหาเร่งด่วน ทั้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเปลี่ยนแปลงทางประชากร เผชิญกับความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม และความไม่สงบทางการเมือง จากปัญหาที่ความตระหนักรู้ที่เพิ่มมากขึ้นและการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน บุคคลรุ่นใหม่เหล่านี้อาจเป็นผู้นำในการนำโซลูชัน ที่เป็นนวัตกรรมไปใช้เพื่อสร้างสังคมที่เท่าเทียมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
และที่สำคัญพวกเขาจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของศตวรรษที่ 21 คาดว่า Generation Beta จะเป็นสัดส่วนประชากรของโลกนี้ ประมาณ 16% ภายในปี 2578 จะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนวิวัฒนาการทางสังคมในอนาคตและคาดว่า ทั้งนี้ Generation Beta ที่เกิดใน พ.ศ. 2568 จะมีโอกาสมีอายุถึง 76 ปี ใน พ.ศ. 2644 หรือ ค.ศ. 2101 นั่นหมายความว่าเด็กกลุ่มนี้จะได้ใช้ชีวิตใน ศตวรรษที่ 22

Generation Beta เข้าสู่ยุคเอไอขั้นสุด
Generation Beta เกิดจากความสำเร็จของคนรุ่นมิลเลนเนียล เจเนอเรชัน Z และเจเนอเรชันอัลฟ่า เมื่อ Generation Beta เติบโตขึ้น คาดการณ์ว่า คนหนุ่มสาวจำนวนมากขึ้นมีส่วนร่วมในธุรกิจที่แก้ไขปัญหาสังคมในขณะที่ทำกำไรได้ อย่างไรก็ตามคน Generation Beta จะให้ความสำคัญกับเรื่องของสภาพจิตใจมากกว่าเจเนอเรชันก่อนหน้านี้ จะทำให้สภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ส่งเสริมสุขภาพจิตมากขึ้นประกอบการมีเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งชีวิตเติบโตมาพร้อมกับเอไอ และระบบเสมือนจริงขั้นสูง พวกเขาพร้อมจะนำนวัตกรรมเหล่านี้มาบูรณาการด้านสุขภาพ เช่นการใช้ระบบไอทีในการตรวจสุขภาพแทนการใช้หมอ มีระบบแจ้งเตือนผ่านสมาร์ตโฟนเมื่อสุขภาพมีความเสี่ยง เป็นต้น เทคโนโลยีเสมือนจริงส่งเสริมในด้านการศึกษาไปจนถึงอุปกรณ์สมาร์ตโฮมที่ตอบสนองความต้องการส่วนบุคคล การก่อสร้างจะมีความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

Generation Alpha
เมื่อย้อนดูข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.scb.co.th/ระบุว่าบุคคลที่เกิดขึ้นในยุคเจเนอเรชันอัลฟ่า Gen Alpha เป็นเจนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มีการเรียนรู้รวดเร็วในเรื่องของเทคโนโลยีซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเลยทีเดียว กล้าลองผิดลองถูกกล้าทำสิ่งใหม่ ๆ รักอิสระและสามารถใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวได้ เชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี ขาดการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นจากการที่อยู่กับเทคโนโลยีมาก ได้รับความรักท่วมท้นจากการที่พ่อแม่ในปัจจุบันมีลูกน้อยลง ขาดความยืดหยุ่นและห่างไกลธรรมชาติ ซึ่งเป็นคาแรกเตอร์ที่แตกต่างจากเจเนอเรชันอื่น ๆ ซึ่งจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป อาชีพหรืองานในอนาคตของกลุ่มเจนอัลฟ่าก็จะเปลี่ยนไปด้วย
Gen Alpha ได้สร้างชื่อเสียงในการเป็น “เด็ก iPad” เสพเนื้อหาไร้สาระบนโซเชียลมีเดียดังนั้นอาชีพในฝันของเด็กรุ่นนี้จึงอยากเป็นยูทูบเบอร์ หรือคอนเทนต์ครีเอเตอร์
โดยคาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีประชากรเจนอัลฟ่าถึงกว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลกเลยทีเดียว และในช่วงกลางทศวรรษ 2030 เจนอัลฟ่าก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่และกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดก็มาจากกลุ่มชาวเอเชีย เจนอัลฟ่าจะมีขนาดใหญ่และมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมากกว่าคนยุคก่อน พวกเขาจะกลายเป็นพลเมืองโลกที่ใช้เทคโนโลยีสื่อสารเชื่อมโยงทั่วโลก เดินทางหลากหลายและมีหลายอาชีพ
ข้อมูลจากรายงานเจาะเทรนด์โลกของ TCDC ระบุว่าเจนอัลฟ่าจะเป็นผู้ขับเคลื่อนธุรกิจและอุตสาหกรรมด้านสุขภาพโดยเลือกประกอบอาชีพที่ส่งเสริมสุขภาพจิตและความเป็นอยู่ที่ดี เพราะพวกเขาเติบโตมากับการตระหนักถึงผลเสียของโลกแห่งความรีบเร่งและสภาพแวดล้อมที่เคร่งเครียดเป็นอย่างดี ในยุโรปตะวันตกครอบครัว 79% คำนึงถึงสุขภาพจิตต่อการเลี้ยงดูลูกรวมถึงธุรกิจต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องเริ่มจ้างงานในตำแหน่งที่เน้นเรื่องความเป็นอยู่และความสุขของพนักงานเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทั้งเด็ก Generation Beta และ Gen Alpha ต้องเผชิญคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศถือเป็นเรื่อง
ท้าทายชีวิตและความเป็นอยู่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.