เมื่อวันที่ 9 ม.ค. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.รังสรรค์ สอนสิงห์ ผกก.สน.สายไหม พร้อมพ.ต.ท.ดิษยเดช ยิ้มแย้ม รอง ผกก.สส.สน.สายไหม พ.ต.ท.ปราโมทย์ อรชุน สว.สส.สน.สายไหม และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม ร่วมกันจับกุมตัว นายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือเหน่ง อายุ 35 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่จ.1651/2567 ลง 16 ธ.ค. 67 ความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืน, พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำตามหน้าที่, ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้าย, ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้น” โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 11.02 น. บริเวณจุดตรวจบุคคลและพาหนะสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ตำบลมีชัย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย

รูปภาพนี้มี Alt แอตทริบิวต์เป็นค่าว่าง ชื่อไฟล์คือ 1736422611039.jpg

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณี เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ของวันที่ 22 ต.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.สายไหม ขับรถไล่จับแก๊งยาบ้าไกลกว่า 10 กม. หลังพบรถเก๋งต้องสงสัยมีชาย 2 คน หญิง 1 คน อยู่ในรถภายในซอยสายไหม 57 เขตสายไหม จึงเรียกตรวจแต่ไม่หยุด ซ้ำยังเร่งเครื่องหนี ชนรถชาวบ้านและรถสายตรวจที่จอดขวางเสียหายนับ 10 คัน ระหว่างทางยังยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเปิดทางหนี สุดท้ายเสียหลักจนมุมชนกำแพงในซอยสายไหม 10 ก่อนจับกุมนายวุฒิศักดิ์ ตันเจริญ อายุ 37 ปี คนขับได้คารถ และทำการปิดล้อมพื้นที่นานกว่า 6 ชม. ก่อนจับกุมน.ส.นันทนา เริ่มเจริญ อายุ 31 ปี ภรรยานายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือเหน่ง อายุ 35 ปี คนร้ายที่หลบหนีไปได้ จากการตรวจค้นรถพบของกลางยาไอซ์ 1 กก. ยาบ้า 1.6 แสนเม็ด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ นายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือเหน่ง อายุ 35 ปี และทำการสืบสวนมาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด กระทั่งได้รับแจ้งจากสายลับว่าบุคคลตามหมายจับนี้หลบหนีการจับกุมไปอาศัยอยู่ที่ สปป.ลาว เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานงานกับทางการ สปป.ลาว เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมตัว จนกระทั่งทางการ สปป.ลาว สามารถจับกุมตัวได้ พร้อมของกลางอาวุธปืน 4 กระบอก กระสุนปืนขนาดต่างๆ กว่า 60 นัด โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง และถูกดำเนินคดีในส่วนของทาง สปป.ลาวเรียบร้อยแล้ว ก่อนประสานส่งมอบตัวผู้ต้องหารายนี้ให้ทางการไทยผ่านช่องทางด่าน ตม.จว.หนองคาย

จากการสอบสวนนายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือเหน่ง เบื้องต้นรับว่าตนเป็นคนขนย้ายยาเสพติดที่ตรวจยึดได้จริง ซึ่งก่อนหน้าที่จะถูกตำรวจไล่จับ ได้ส่งยาในลักษณะนี้มาแล้ว 5 ครั้ง ส่วนยาที่ยึดได้เป็นการส่งครั้งที่ 6 และในวันเกิดเหตุตนเองพกปืนมาด้วย 2 กระบอก โดยเป็นคนยิงใส่ตำรวจขณะถูกไล่จับกุมไปจำนวน 5 นัดเพื่อเปิดทาง จังหวะทึ่ถูกไล่มาถึงหลังตลาดเซฟวันโก ซึ่งไม่มีไฟได้กระโดดลงรถแล้วเดินปะปนไปในกลุ่มลูกค้าแล้วเดินมาเรียกแท็กซี่บริเวณแยก คปอ. ไปพักกับเพื่อนย่านพระราม 2 1 คืนก่อนเรียกแท็กซี่เดินทางมาต่อรถที่สระบุรี ไปโคราช และต่อรถไปจ้างเรือข้ามฟากไป สปป.ลาว ที่ จ.หนองคาย และเข้าทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน สปป.ลาวจนมาถูกจับ ส่วนอาวุธปืนอีก 2 กระบอก เป็นของเพื่อนที่ทำงานร้านอาหาร ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจลาวจับพร้อมกัน

อย่างไรก็ตามจากการตรวจประวัตินายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือเหน่ง ผู้ต้องหาในคดีนี้ พบว่าปี 53 ถูกจับข้อหาเสพยาเสพติดประเภท 1 ท้องที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม ปี 55 ถูกจับข้อหาพยายามฆ่า ท้องที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร และมาถูกจับในคดีนี้