เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่รัฐสภา นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ อดีต สว. ให้สัมภาษณ์ภายหลังมอบของขวัญวันเด็ก ให้กับแม่บ้านฝั่งวุฒิสภา เพื่อนำไปมอบให้กับลูกๆ ว่า วันนี้เป็นวันก่อนวันเด็ก ตนก็คิดถึงแม่บ้านของวุฒิสภา ซึ่งมีรายได้น้อย และในสมัยที่ตนเป็น สว. ก็มอบให้ทุกปี และตนขออนุญาตพูดเรื่องคำขวัญวันเด็ก ถ้าเราศึกษาประวัติศาสตร์จะพบว่าคำขวัญวันเด็กในทุกสมัย เป็นคำขวัญที่เรียกร้องเด็กมาตลอด ไม่ว่าจะนายกฯ คนไหน เช่น มีวินัย มีความซื่อสัตย์ มีความฉลาด มีความมัธยัสถ์ แต่ตนคิดว่าวันเด็กแห่งชาติ เป็นวันที่ให้เราระลึกถึงสมัยที่เราเป็นเด็ก เราต้องการอะไร ดังนั้น ควรจะเปลี่ยนจากการให้คำขวัญมาเป็นให้ของขวัญ เหมือนกับที่ส่วนราชการและเอกชนก็ให้ของขวัญเด็กทั้งนั้น แต่รัฐบาลในฐานะที่เป็นพ่อแม่รายใหญ่ตั้งแต่นายกฯ จนถึง ครม. ทั้งหมด ควรคิดให้ของขวัญกับเด็กคือการที่รัฐบาลบอกเจตนารมณ์ว่าในวันเด็กปีนี้ รัฐบาลจะทำอะไรให้กับเด็ก

นายวัลลภ กล่าวว่า เมื่อ 2-3 วันที่แล้ว มีสภานักเรียนไปพบนายกฯ และมีการพูดถึงของขวัญที่อยากได้ คือให้รัฐบาลยึดมั่นให้มีกิจกรรมส่งเสริม ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ช่วยปราบบุหรี่ไฟฟ้า และเกมออนไลน์ที่เป็นภัยต่อเด็ก และให้ช่วยเด็กที่ตกหล่นจากระบบการศึกษาเข้ามาสู่ระบบการศึกษา ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าเด็กไม่ต้องการคำขวัญ เพราะเขาได้ทุกวันในโรงเรียนอยู่แล้ว ดังนั้นรัฐบาลควรให้ของขวัญ เช่น รัฐบาลจะไม่โกง จะซื่อสัตย์สุจริต เพราะการซื่อสัตย์จะนำมาซึ่งเงินมหาศาลที่จะนำไปพัฒนาคน ดังนั้น รัฐบาลต้องประกาศเจตนารมณ์เพื่อเด็กว่าปีนี้จะทำอะไร เช่น ปีนี้จะมีสนามเด็กเล่นทั่วประเทศ มอบอุปกรณ์เด็กเล่นครบชุดให้เด็กวัยอนุบาลทุกคน และย้ำว่าเราต้องเปลี่ยนการให้คำขวัญเป็นการให้ของขวัญที่มีค่า 

เมื่อถามว่าตอนนี้มีข่าวเด็กถูกหลอกเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายวัลลภ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงที่ตนได้รับ คือเด็กในมูลนิธิสร้างสรรค์เด็กที่ตนดูแลอยู่จำนวนมาก เป็นเด็กเร่ร่อน เด็กด้อยโอกาส เมื่อโตมาก็ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง และจะถูกหลอกมากให้ไปเปิดบัญชีม้า เช่น หลอกให้เปิดบัญชีแล้วให้เงิน 2 พันบาท ที่ตนรู้เพราะมีคำสั่งศาลมาที่มูลนิธิมาก เพราะเด็กไปเปิดบัญชี จึงทำให้เราต้องไปดำเนินคดีช่วยเหลือเด็ก ซึ่งชัดเจนว่าเด็กตกเป็นเครื่องมือมาก ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่รัฐบาลต้องให้ของขวัญด้วยการจำกัด บรรดาคนที่ล่อลวงเด็กอย่างจริงจัง อาจจะออกกฎหมายหรือใช้มาตรการที่มีอยู่อย่างเข้มข้น เพราะเป็นสิ่งที่น่ากังวลมาก ที่เด็กตกเป็นผลประโยชน์กับคนกลุ่มนี้.