แม้สังคมส่วนใหญ่จะไม่ได้คลุกคลีติดตาม แต่ต้องยอมรับคนจำนวนไม่น้อยนิยม “เสพ” คอนเทนต์ลักษณะนี้ ซึ่งจะมีผลต่อพฤติกรรมส่วนบุคคลหรือสังคมมากน้อยแค่ไหน

“ทีมข่าวอาชญากรรม” มีโอกาสสอบถามในมุมนักอาชญาวิทยา กับ รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดีฝ่ายความปลอดภัย ประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต

คดี “แบงค์ เลสเตอร์” บ่งชี้ข้อกังวล

รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ เผยประเด็นที่เกิดขึ้นสะท้อนการผลิตคอนเทนต์สื่อสารในโลกออนไลน์ที่ไม่คำนึงถึงความดี หรือยึดโยงมาตรฐานสังคม การทำให้คลิปแตกต่างจากเนื้อหาที่เคยทำแม้เป็น “ทางลบ” เพื่อให้คนสนใจเข้ามาดู เรียกให้คนกดไลก์ กดแชร์ ยิ่งมีคนไปแสดงความเห็นยิ่งเพิ่มยอดเอนเกจเมนต์ (Engagement) ทำให้ระบบ AI ของแพลตฟอร์ม (Platform) จับว่ามีคนเข้ามา จึงยิ่งโชว์ให้เห็นมากขึ้น

สิ่งที่น่ากังวลคือ การที่คนสนใจแค่การที่มีคนเข้าไปดู แต่ไม่สนใจเนื้อหาที่ผลิตขึ้นมา ดังนั้น จำเป็นต้องทบทวนว่า สังคมกำลังบิดเบี้ยวไปจากความดี ความถูกต้องหรือไม่ จุดนี้เป็นเรื่องน่ากลัวเพราะคอนเทนต์ขยะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ และกลายเป็นช่องโหว่ของกฎหมายหากทำอะไรไม่ได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ การเผยแพร่ไปเรื่อย ๆ เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ และใช้เงินเพื่อจ้างคนที่กำลังต้องการเงินยอมเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตคอนเทนต์ขยะ แล้วก็เกิดการสร้างบรรทัดฐานใหม่ของสังคมไทย

บรรทัดฐานสังคม VS กฎหมาย

เมื่อถามถึงพฤติกรรมคอนเทนต์ตลาดล่าง สุ่มเสี่ยงการกระทำผิดในแง่ใดบ้าง รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ ระบุ การผลิตคอนเทนต์ที่ให้ดื่มแอลกอฮอล์จนเสียชีวิต มีโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ส่วนการหวังเพิ่มยอดคนดู การกดไลก์ กดแชร์ ด้วยการให้คนมาดื่มอาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เป็นต้น โดยต้องยอมรับหลายคอนเทนต์อาจยังไม่เข้าข่ายข้อกฎหมาย เพราะยังไม่มีคนเสียชีวิต แต่การทำคอนเทนต์ที่คนทั่วไป “ไม่ทำ” แม้จะไม่ละเมิดกฎหมายแต่ก็ละเมิดบรรทัดฐานสังคม

อย่างไรก็ตาม ตามหลักวิชาการหากทำให้คนในสังคมละเมิดบรรทัดฐานมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีแนวโน้มว่าคนจะละเมิดกฎหมายด้วย ยกตัวอย่าง การผลิตคอนเทนต์โดยให้แบงค์ เลสเตอร์ทำสิ่งต่าง ๆ เห็นเป็นเรื่องสนุกแล้วจ่ายเงิน สุดท้ายกลายเป็นละเมิดกฎหมายโดยให้มีการดื่มแอลกอฮอล์แล้วให้เงิน

“กรณีนี้ตรงตามหลักวิชาการ เช่น การผลิตคอนเทนต์โดยให้แบงค์ทำโน่นนี่ เห็นเป็นเรื่องสนุกแล้วจ่ายเงิน สุดท้ายกลายเป็นละเมิดกฎหมายโดยการให้ดื่มแอลกอฮอล์และให้เงิน แต่เขาก็ยอมรับเงินและเสียชีวิต ฉะนั้น ในทางกลับกันหากไม่ต้องการให้คนละเมิดกฎหมาย บรรทัดฐานของสังคมไทยต้องชัดเจน เพื่อให้คนปฏิบัติตามนั้น เพราะหากบรรทัดฐานสังคมดีพอ คนยินยอมที่จะปฏิบัติตามบรรทัดฐานของสังคมนั้น ๆ กฎหมายก็แทบไม่มีความหมาย”

คอนเทนต์ขยะทิ้งอะไรให้ผู้เสพวัยเปราะบาง

แน่นอนว่าเด็กและเยาวชนเป็นวัยที่ชื่นชอบความสนุก ท้าทาย ชอบลองสิ่งแปลก การทำคอนเทนต์ลักษณะนี้จึงโดนใจ เพราะรู้สึกแหวกแนว แตกต่างจากบรรทัดฐานสังคม ดังนั้น จำเป็นต้องมีการสื่อสารทั้งในกลุ่มครอบครัว เพื่อน และสถาบันการศึกษา พร้อมแนะนำหากพบให้ “ปัดทิ้ง” ไม่เข้าไปดู ไม่เข้าไปแสดงความคิดเห็น เพื่อไปเพิ่มยอดเอนเกจเมนต์ แต่ให้เลือกกด “รายงาน” (Report) ไปยังแพลตฟอร์มนั้นๆ เพื่อให้การรายงานส่งผลถึงการ “แบน” การผลิตที่จะออกมา

ความแตกต่างเชิงอาชญาวิทยา “ผู้ผลิตเหยื่อคอนเทนต์”

ผู้ผลิตคอนเทนต์หลักๆ จะใช้เงินเป็น “ตัวล่อ” สำคัญ โดยเฉพาะหากทำธุรกิจสีเทา หรือธุรกิจไม่ถูกต้อง มีเงินมาก สามารถจ่ายได้ ทำให้มีการนำไปเปรียบเทีบบกับค่าแรงรายวัน การทำคอนเทนต์ไม่นานได้เงินเยอะกว่า การขาดจิตสำนึกรับผิดชอบของผู้ผลิตจึงเป็นจุดที่น่ากลัว หากครอบครัว เพื่อน หรือคนใกล้ชิด ไม่สามารถตักเตือนได้ ก็ต้องพึ่งกฎหมาย ที่หากยังมีช่องว่าก็ต้องพิจารณาว่าจะสามารถปรับปรุงแก้ไขเพิ่มขึ้นได้หรือไม่

เช่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ข้อที่ระบุเรื่องขัดต่อความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดีของประชาชนเข้าข่ายหรือไม่ หรือจำเป็นต้องปรับนิยมให้เข้าข่าย เพื่อเป็นการป้องปราม

สำหรับเหยื่อ มองว่ามักเป็นกลุ่มเปราะบาง อาทิ คนที่ต้องการนำเงินไปใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างแบงค์ เลสเตอร์ ที่ต้องดูแลยาย ทำให้รู้ว่าสามารถทำได้ จากการชักชวน ล่อลวงด้วยเม็ดเงิน ซึ่งภาครัฐยังเข้าไม่ถึงในแง่การเข้าไปให้โอกาสคนเปราะบางได้ศึกษา มีงานทำ หรือได้รับการดูแล จึงต้องมาแสวงหาโอกาสผ่านช่องทางนี้

ข้อเสนอจัดการปัญหาคอนเทนต์ขยะ

ในฐานะเป็นที่ปรึกษาให้ตำรวจไซเบอร์ เห็นด้วยกับแนวคิดการมีกฎหมายแต่ต้องรับฟังความเห็นหลายฝ่าย เพราะกฎหมายจะบังคับใช้กับทุกคน การแก้กฎหมายเป็นเรื่องใหญ่ แต่ในระยะเร่งด่วนสิ่งที่ทำได้ เช่น ประสานแพลตฟอร์มที่จะปิดกั้นการเข้าถึง ควบคู่กับการดำเนินคดีตามกฎหมายที่มีอยู่ การแก้ไขกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง หรือการนิยามใหม่เรื่องที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นต้น

“ปฏิเสธไม่ได้ว่ากิเลสของมนุษย์ชอบความแปลก ท้าทาย จึงทำให้หวย หรือการพนัน อยู่คู่มาด้วยตลอด การผลิตคอนเทนต์ก็อาศัยกิเลสเช่นกัน การจะทำให้สังคมน่าอยู่ต้องช่วยกัน โดยเฉพาะการกดรายงาน ไม่เข้าไปดู ไม่เข้าไปกดไลก์ กดแชร์ แสดงความคิดเห็น เมื่อเจอคอนเทนต์จำพวกนี้ต้องระดมรายงาน เมื่อแพลตฟอร์มได้รับก็จะมีการตรวจสอบตามมา” รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ ทิ้งท้าย.

ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน