Sculptra เทคโนโลยีฟื้นบำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอกที่เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ช่วยกอบกู้ผิวที่เสื่อมสภาพเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ให้กลับมาอิ่มฟู ดูเปล่งปลั่ง พร้อมลดเลือนริ้วรอย และเพิ่มความแข็งแกร่งของผิว
สำหรับผู้ที่สนใจฉีด Sculptra บทความนี้จะพาไปรู้จักว่า Sculptra คืออะไร? Sculptra ช่วยอะไรบ้าง เมื่อเทียบกับหัตถการอื่น ๆ ให้ผลลัพธ์ได้คุ้มค่าแค่ไหน
Sculptra คืออะไร ทำไมถึงช่วยให้ผิวกลับมาแข็งแรง?

Sculptra คือ สารกลุ่มกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Stimulator) ที่มีองค์ประกอบหลักจากอนุภาคของสาร Poly-L-Lactic Acid (PLLA) หรือที่เรียกว่าไหมน้ำ โดยหลังฉีด Sculptra ลงไปใต้ผิวชั้นลึก ร่างกายจะดูดซึมตัวยา แล้วผลิตคอลลาเจนใหม่ออกมาทดแทนส่วนที่สูญเสียไป ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว พร้อมยกกระชับส่วนที่หย่อนคล้อย ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึกให้ตื้นขึ้น รูขุมขนเล็กลง นอกจากนี้ Sculptra ยังช่วยปรับผิวให้ดูสดชื่น มีความกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
ทำไมจึงไม่ควรขาดคอลลาเจน สำคัญต่อผิวอย่างไร
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สำคัญต่อร่างกาย เพราะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของโครงสร้างส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกระดูก, เส้นเอ็น, กล้ามเนื้อ, หลอดเลือด โดยเฉพาะในผิวหนัง ซึ่งมีคอลลาเจนอยู่ถึงร้อยละ 75
บทบาทสำคัญของคอลลาเจน ได้แก่ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว กักเก็บความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นและแข็งแรงของผิว แต่ร่างกายจะเริ่มผลิตคอลลาเจนได้น้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น การฉีด Sculptra จึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้นได้ถึงร้อยละ 66.5 โดยเฉพาะชนิดที่ 1 ที่มีสัดส่วนร้อยละ 90 ของปริมาณคอลลาเจนทั้งหมด ช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของผิวหนังได้ดี
Sculptra ฉีดกี่ครั้งเห็นผล
sculptra ต้องฉีดกี่ขวด กี่ครั้งถึงจะเห็นผล? หากต้องการให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ ควรเข้ารับการประเมินปัญหาจากแพทย์ เพื่อคำนวณปริมาณและจำนวนครั้งที่ต้องฉีด Sculptra ได้อย่างเหมาะสม
แต่โดยทั่วไป หากมีปัญหาผิวน้อยแนะนำให้ฉีดครั้งละ 1 ขวด ส่วนคนที่มีปัญหาเยอะหรืออายุ 30 ปีขึ้นไป ควรฉีดครั้งละ 2 ขวด โดยจะต้องฉีดต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง เว้นระยะห่างทุก 4-6 สัปดาห์ จะช่วยให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้อย่างเต็มที่ และผลลัพธ์มีความยาวนานถึง 2 ปี
Sculptra ราคาเท่าไหร่?
Sculptra ราคาเท่าไหร่? ตามเกณฑ์ทั่วไปในท้องตลาด ราคาจะอยู่ที่ 20,000-40,000 บาทต่อ 1 ขวด โดยราคา Sculptra แตกต่างกันไปตามจำนวนขวดที่ใช้ บริเวณจุดฉีด ไปจนถึงโปรโมชันของแต่ละคลินิก ทั้งนี้ ไม่ควรเลือก Sculptra ที่ราคาถูกเกินไป เนื่องจากอาจเป็นของไม่ได้มาตรฐาน เสี่ยงต่อความปลอดภัยได้
เปรียบเทียบ Sculptra กับหัตถการกระตุ้นคอลลาเจนอื่นๆ ควรเลือกแบบไหนให้ตอบโจทย์ที่สุด

ปัจจุบันมีหัตถการฉีดกระตุ้นคอลลาเจนให้เลือกมากมาย แต่เมื่อเปรียบเทียบหัตถการอื่นกับการฉีด Sculptra แบบไหนจะดีกว่ากัน? มีข้อแตกต่างอย่างไรบ้าง มีดังนี้
Sculptra VS Radiesse
Sculptra กับ Radiesse เป็นหัตถการที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ใกล้เคียงกัน แต่ Sculptra ต้องอาศัยเวลาในการสร้างคอลลาเจนอย่างช้า ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมช่วยให้ผิวยกกระชับขึ้น ส่วน Radiesse ที่มีส่วนประกอบหลักจาก CaHA เมื่อฉีดลงไปในระนาบใต้ผิว นอกจากกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที และช่วยเติมเต็มร่องลึกได้ดี โดยผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี
Sculptra VS Rejuran
Sculptra กับ Rejuran มีความต่างกันตรงที่ Rejuran เป็นสาร Polynucleotide (PN) ที่ได้มาจากปลาแซลมอน มีความใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์ ช่วยปรับให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง มีความกระจ่างใส ผิวสวยแบบ Glass skin ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
ส่วน Sculptra เป็นสารที่สังเคราะห์มาจากพืช ก่อให้เกิดอาการแพ้น้อย เหมาะกับคนเน้นกระตุ้นคอลลาเจน ปรับผิวหลวมให้ฟูกระชับอีกครั้ง
Sculptra VS Ulthera
Sculptra กับ Ulthera มีการทำงานแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดย Sculptra จะใช้การฉีดตัวยาลงสู่ใต้ผิวหนัง แล้วกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ ส่วน Ulthera จะยิงคลื่น Ultrasounds ลงไปที่ผิวชั้น SMAS อย่างแม่นยำ เพื่อให้ผิวหดตัวจากใต้ผิวหนัง ช่วยยกกระชับความหย่อนคล้อยได้ทั่วใบหน้า ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1 ปี
ฉีด Sculptra อันตรายจริงไหม?
การฉีด Sculptra เป็นหัตถการที่ไม่อันตราย เพราะสาร PLLA ถือเป็น Biostimulator ตัวแรกที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (US.FDA) ทั้งยังมีงานวิจัยอีกหลายฉบับที่ยืนยันว่าสามารถฟื้นฟูโครงสร้างผิว กระตุ้นคอลลาเจนได้จริง ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงอันตราย และสลายได้เองโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง
ข้อควรระวังในการฉีด Sculptra ใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง
แม้การฉีด Sculptra จะมีความปลอดภัยและถูกใช้งานมาอย่างยาวนาน แต่ก็มีข้อควรระวังที่ต้องรู้ก่อนฉีด Sculptra เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น โดยควรงดฉีดในกลุ่มคนต่อไปนี้
- ผู้ที่แพ้สาร Poly-L-lactic acid (PLLA)
- ผู้ที่มีประวัติแพ้ยาชา
- ผู้ที่เคยแพ้รุนแรง (Anaphylactic Shock)
- ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลเป็นนูน แผลคีลอยด์
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวแพ้ภูมิตัวเอง
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร
- ผู้ที่ผิวอักเสบบริเวณจุดฉีด เช่น เป็นสิว เริม มีแผล ก้อนซีสต์ เป็นต้น
- ผู้ที่ทานยาสเตียรอยด์ และยากดภูมิคุ้มกัน
สรุป Sculptra ตัวช่วยฟื้นฟูผิวหน้า กระตุ้นคอลลาเจนอย่างมีประสิทธิภาพ
การฉีด Sculptra จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ผิวมีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ ดูเปล่งปลั่ง กระจ่างใส ทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์บนใบหน้า
หากต้องการฉีด Sculptra ให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย ขอแนะนำ Apex Beauty คลินิกเสริมความงามที่มีมาตรฐาน เปิดบริการมานานกว่า 30 ปี มี 50 สาขาทั่วประเทศ โดยที่คลินิกเลือกใช้แต่ของคุณภาพดี และทำหัตถการโดยแพทย์เท่านั้น จึงเพิ่มความมั่นใจในผลลัพธ์ ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน