สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ว่าสำนักงานสอบสวนการคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงทางการเมือง (ซีไอโอ) ออกแถลงการณ์ ยืนยันการจับกุมประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ผู้นำเกาหลีใต้ จากบ้านพักในกรุงโซล ในข้อหาเป็นผู้นำก่อการกบฏ จากการประกาศกฎอัยการศึก ซึ่งเกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 3-4 ธ.ค. 2567
การควบคุมตัวเกิดขึ้นเมื่อวันพุธ และเจ้าหน้าที่นำตัวผู้นำเกาหลีใต้ขึ้นรถ เพื่อเดินทางไปยังสำนักงานของซีไอโอ เพื่อสอบปากคำตามกระบวนการ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ ที่มีการจับกุมประธานาธิบดีซึ่งยังอยู่ในวาระ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของซีไอโอและตำรวจอีกมากกว่า 1,000 นาย ยกกำลังมาถึงบ้านพักของยุน ในเขตใจกลางกรุงโซล ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ของวันพุธ โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานอารักขาประธานาธิบดีไม่ได้ต่อต้านมากนัก พนักงานสอบสวนจึงสามารถเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของบ้านพักได้ภายในเวลาไม่นาน
อนึ่ง ซีไอโอพยายามจับกุมผู้นำเกาหลีใต้มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 3 ม.ค. แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงมีการขอให้ศาลออกหมายจับฉบับที่สอง ซึ่งศาลอนุมัติเมื่อวันที่ 7 ม.ค. และให้มีผลจนถึงวันที่ 21 ม.ค.นี้
ขณะที่มีรายงานว่า เมื่อสอบปากคำเสร็จแล้ว พนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้นำเกาหลีใต้ไว้ชั่วคราว ที่ศูนย์กักกัน ซึ่งอยู่ใกล้กับสำนักงานของซีไอโอ ในเขตชานกรุงโซล

หลังจากนี้ พนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัวประธานาธิบดีได้นานสูงสุดไม่เกิน 48 ชั่วโมง แน่นอนว่า ในระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่จะยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอขยายระยะเวลาควบคุมตัว หากศาลไม่รับรอง ผู้นำเกาหลีใต้จะได้รับการปล่อยตัว หลังการสอบปากคำครบ 48 ชั่วโมง
หากศาลอนุมัติ พนักงานสอบสวนจะควบคุมตัวประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้นานสูงสุด 20 วัน และต้องเร่งทำสำนวนให้เสร็จสิ้นภายในกรอบระยะเวลานี้ด้วย เพื่อให้อัยการเป็นผู้สั่งฟ้องต่อไป เมื่อเกิดขึ้น อัยการสามารถขอให้ศาลคุมขังประธานาธิบดีได้นานสูงสุด 180 วัน
ด้านทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้เผยแพร่คลิปแถลงการณ์ของประธานาธิบดี ว่าแม้เขายังคงเชื่อมั่น ว่ากระบวนการสืบสวนสอบสวน โดยซีไอโอ “ไม่ชอบธรรมตามกฎหมาย” และกล่าวว่า หลักนิติธรรมของเกาหลีใต้ “ล่มสลายลงแล้ว” อย่างไรก็ตาม เขาจะให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน เพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความบานปลายกลายเป็นการนองเลือด
ส่วนพรรคประชาธิปไตย (ดีพี) ซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้าน ออกแถลงการณ์ว่า การจับกุมยุน ถือเป็นก้าวย่างที่สำคัญขั้นแรก ของการฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยตามหลักรัฐธรรมนูญ ให้กลับคืนสู่เกาหลีใต้ แม้ต้องใช้เวลาก็ตาม
อีกด้านหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญเปิดการไต่สวน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ในคดีที่สภาถอดถอนยุนออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา จากการประกาศกฎอัยการศึก เมื่อต้นเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว โดยศาลมีเวลาพิจารณานานสูงสุด 180 วัน แม้การไต่สวนวัดแรกจบลงภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที เนื่องจากผู้นำเกาหลีใต้ไม่มาขึ้นศาล แต่สำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญยืนยันว่า กระบวนการพิจารณาคดีจะยังคงดำเนินต่อไป.
เครดิตภาพ : AFP